เสริมสิริมงคล เรียกงาน เรียกความรัก "อาบน้ำเพ็ญ" คืนวันลอยกระทง
ในหนึ่งปีจะนิยมอาบน้ำเพ็ญกันในวันเพ็ญเดือน ๑๒ เพราะเป็นวันที่ "พระจันทร์เต็มดวง" ซึ่งเป็นพิธีกรรมโบราณมีมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวร
คืนเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 นี่โบราณท่านว่า ขลังนัก ขลังทั้งสำหรับใช้เป็นฤกษ์ ขอพรพระจันทร์ เป็นวันที่มีการเกิด ปุรณมี ที่ปีนี้เหลืออีกแค่ 2 ครั้ง คือวันที่ 19 พ.ย. และ 19 ธ.ค. โดยที่ 19 พ.ย. ลอยกระทง จะขลังที่สุด
เพื่อเป็นการเสริมบารมีให้ตัวเอง พิธี "อาบน้ำใต้แสงจันทร์" เป็นพิธีเก่าแก่มาจากตำราโบราณตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวร ที่จะอาบให้กับผู้ที่จะออกรบ ซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นพิธีที่กำลังฮอตฮิตในหมู่ดาราคนมีชื่อเสียง แม้จะเป็นเรื่องของความเชื่อส่วนบุคคล แต่ก็เคยเห็นผลมาแล้วจากดารานักร้องหลายท่าน เพื่อให้คนรักลุ่มหลง รักใคร่
พิธีอาบน้ำแสงจันทร์ เรียกงาน เรียกสามี ศาสตร์เหล่านี้มาเป็นเวลากว่า 30 ปี โดยมีคติความเชื่อว่า เมื่ออาบน้ำเพ็ญแล้วก็จะโชคดีมีลาภ มีเสน่ห์เมตตามหานิยม คนที่ป่วยเป็นโรคภัยไข้เจ็บ หน้าตาเศร้าหมอง เมื่อได้อาบน้ำเพ็ญไปแล้วก็จะหายจากอาการเจ็บป่วย ในขณะที่ผู้เป็นหมอดู นักพยากรณ์ เป็นแพทย์แผนโบราณ เมื่อได้อาบน้ำเพ็ญแล้วก็เชื่อว่าจะทำให้มีความสามารถในการพยากรณ์ ในการรักษาโรคดีขึ้น
พิธีอาบแสงจันทร์ทำเพื่อชำระล้างบาป คือพิธีชำระร่างกาย ช่วยให้ผู้ที่ชำระทำให้ตัวเองมีสิริมงคล เพื่อชำระร่างกายให้บริสุทธิ์ ในสิ่งที่ทำไม่ดีต่อพ่อแม่ หรือหรือทำอะไรไปโดยไม่รู้ตัว โดยตำรานี้มันมีมาตั้งแต่สมเด็จพระนเรศวร สมัยพิชัยสงคราม ตั้งแต่ยุคอโยธยา ขั้นตอนพิธีนั้นต้องไปดำน้ำผุดท่องคาถาใต้น้ำ จะให้ดีต้องที่เขาใหญ่เท่านั้น และต้องทำในตอนกลางคืน ถึงจะตรงตามตำราที่สุด
อาบน้ำนี้คือการดำน้ำผุดแล้วท่องคาถาใต้น้ำ และต้องเป็นน้ำที่ไหล ต้องสัมผัสผิวเรา ตามตำราบอกว่า แม่พระคงคาไหลออกจากเกสาแม่พระธรณี มันก็ต้องเป็นน้ำพุดจากดินขึ้นมา เห็นน้ำก็รู้แล้วว่าสะอาดจริงกินได้ จะใกล้เคียงตำราที่สุด และสถานที่นั้นจะต้องมีต้นตะเคียนใหญ่อยู่ด้วย พลังงานโลกวิญญาณผ่านไปผ่านมา แล้วเทวดาที่สถิตอยู่ที่อ่างน้ำ นางไม้จะมาสรรเสริญ ว่ามนุษย์ผู้นี้รู้ได้ยังไง ทำพิธีโบราณเป็น 2-3 พันปีได้อย่างไร ที่ๆ น่ากลัวจะทำให้จิตใจเรากลัวด้วย ของไม่ดีพวกนี้จะได้ออกง่าย นี่คือเคล็ดลับ
คำขอขมาพระแม่คงคา
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต
คำขอขมาเป็นภาษาไทย ความหมายว่า
ข้าแต่คงคา ลูกขอวันทา ด้วยประทีปกระทง พระแม่คงคา มีความเมตตา ต่อลูกสูงส่ง คือน้ำในกาย สามส่วนมั่นคง กายจึงยืนยง ชุ่มชื่นยืนนาน พระแม่คงคา กำเนิดจากฟ้า โปรยปรายลงมา เป็นกระแสธาร เกิดเป็นแม่น้ำ หลายนามขนาน ปิง, วัง, ยม, น่าน คือ เจ้าพระยา ท่าจีน, ตาปี นครชัยศรี โขง, ชี, มูล, ละหาร ห้วยหนองคลองบึง จนถึงแก่งกว๊าน น้ำใต้บาดาล อีกทั้งประปา
ลูกๆ ทั้งหลาย เดินทางขายค้า สำเร็จกิจจา คมนาคม นำมากินใช้ ได้ดั่งอารมณ์ ยามร้อนประพรม ชุ่มชื่นกายใจ ชำระมลทิน โสโครกทั้งสิ้น สะอาดสดใส ผุดผ่องพราวตา แลเลิศวิไลซ์ แม่น้ำรับไว้ สกปรกโสมม น้ำเสียเรือนชาน ซักผ้าล้างจาน เททิ้งทับถม ไหลลงคงคา ธาราระทม สารพิษสะสม เน่าคลุ้งฟุ้งไป วันนี้วันเพ็ญ พระจันทร์ลอยเด่น เป็นศุภสมัย ลูกจัดกระทง ประสงค์จงใจ นำมากราบไหว้ พระแม่คงคา เทวาทรงฤทธิ์ ซึ่งสิงสถิต ทุกสายธารา ทั้งผีพรายน้ำ อย่าซ้ำโกรธา ลูกขอขมา อโหสิกรรม ทำกิจใดใด อุทกภัย อย่าได้เติมซ้ำ อย่าพบวิบัติ ข้องขัดระกำ อย่าให้ชอกช้ำ น้ำท่วมพสุธา อย่าให้สินทรัพย์ ต้องพลันย่อยยับ เพราะสายธารา อย่าให้ชีวิต ต้องปลิดชีวา พระแม่คงคา รับขมาลูก เทอญ
ขอบคุณ : วิกิพีเดีย,sanook