10 ต้นไม้ โบราณว่าห้ามปลูกในบ้าน เป็นต้นไม้อัปมงคล
ทุกยุคทุกสมัยมักมีความเชื่อแฝงอยู่ในการใช้ชีวิต วันนี้ Thainews จะพาไปเปิดความเชื่อโบราณที่ว่าห้ามปลูกต้นไม้ไว้บริเวณบ้านเด็ดขาด เพราะเชื่อว่าจะทำให้ขัดโชคลาภ มีแต่เรื่องเดือดร้อน
บทความนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ต้องบอกเลยว่า เทรนด์การปลูกต้นไม้สมัยนี้นั้น มาแรงแซงโค้งจริงๆ วันนี้ไม่ได้จะพามาดูต้นไม้ด่าง ต้นไม้กระแสหรือต้นไม้ยอดนิยมอันดับต้นๆ แต่บทความนี้จะพามาเปิดความเชื่อโบราณที่ว่า ห้ามปลูกต้นไม้ไว้ในบ้าน แล้วทำไมไม่ควรปลูกในบ้าน
1. ต้นโศก/ต้นอโศก/ต้นโสก คำว่าโศก ทำให้นึกถึงคำว่าโศกเศร้า ซึ่งมักจะมาจากความรักที่ไม่สมปรารถนา แต่จริงๆ แล้วชื่อเดิมของโศก คือ อโศก แปลว่า ความไม่มีโศกเศร้า เป็นสัญลักษณ์ของความรักที่ไม่ความโศกเศร้า
แต่ถึงอย่างไรคนไทยก็ยังมีความเชื่อว่า ชื่อ ต้นโศก ไม่เป็นมงคลหากนำมาปลูกในบ้าน จะชวนให้บ้านและผู้ที่อยู่อาศัยในบ้านชวนหดหู่เศร้าหมอง
และมีความเชื่อสืบต่อกันมาว่า หากปลูกต้นโศกเอาไว้ในบ้านแล้ว คนในบ้านก็จะมีแต่ความทุกข์ความเศร้า ความหม่นหมอง และจะทำให้มีเรื่องโศกเศร้าเสียใจ
2. ต้นระกำ จากชื่อของต้นระกำทำให้คนไทยไม่นิยมนำมาปลูกในบ้าน เพราะเชื่อกันว่าหากปลูกต้นระกำไว้ในบ้าน จะนำความชอกช้ำ ระกำทรวง มาให้อยู่ตลอดเวลา และจากลักษณะของต้นระกำที่เป็นต้นพุ่มแตกเป็นกอ ลำต้นจะมีหนามแหลมยาว อาจจะเกิดอันตรายได้
จากลักษณะของต้นระกำที่เป็นต้นพุ่มแตกเป็นกอ ลำต้นจะมีหนามแหลมยาวอยู่แล้ว ซึ่งหากเด็กเข้าไปใกล้ก็อาจจะเกิดอันตรายได้
3. ต้นมะรุม มะรุมเป็นต้นไม้ที่คนไทยสมัยนี้จะคุ้นเคยกับการนำไปทำแกงส้ม แต่คนไทยตั้งแต่สมัยโบราณ เชื่อว่าหากมีต้นมะรุมอยู่ในบ้านจะทำให้มีเรื่องมารุมเร้า เดือดร้อนวุ่นวาย เกิดเรื่องกลุ้มใจ มีเรื่องร้อนรุม สุมทรวง
ผู้คนจะมารุมข่มเหง มีเรื่องร้ายๆ โหมกระหน่ำรุมล้อมเข้ามา ทำให้ผู้ที่อยู่ในบ้านอยู่ไม่เป็นสุข ต้นมะรุมจึงถือว่าเป็นไม้ไม่เป็นมงคลจึงไม่ควรนำมาปลูกไว้ในบ้านเป็นที่สุด
4. ต้นรัก ชื่อต้นรักจะดูฟังไปในทางที่ดี และตามประเพณีในประเทศไทย มักจะนิยมนำดอกรักมาร้อยเป็นมาลัยใช้ในงานมงคลที่เกี่ยวเนื่องกับความรัก เพราะดอกรักสื่อความหมายถึงความรัก เช่น งานหมั้น และงานแต่งงาน
แต่ก็มีความเชื่อมาแต่โบราณเหมือนกันที่ไม่ให้ปลูกต้นรักในบ้าน เพราะเชื่อว่า จะทำให้ความรักยุ่งยากซับซ้อนขึ้น และกลายเป็นคนหลายรัก นอกจากนี้ ยางของต้นรัก ยังเป็นอันตรายต่อผิวหนังด้วย
5. ต้นมะละกอ หลายคนอาจจะไม่เชื่อว่ามะละกอเป็นต้นไม้ที่ห้ามปลูกในบริเวณบ้าน เพราะมะละกอเป็นพืชล้มลุกที่คนไทยคุ้นเคยในการรับประทานและนำไปประกอบอาหารหรือนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ แต่ก็มีคนจำนวนมากที่เชื่อว่าชื่อของ มะละกอนั้น ไม่ค่อยจะดีนัก ซึ่งเหมือนกับการแตกออกเป็นกอ หรือ “ละ” จากเผ่าจากกอ
6. ต้นชวนชม การปลูกต้นชวนชมเอาไว้ในบ้านจะส่งผลให้มีผู้คนมาชื่นชม นิยมยกย่อง กลายเป็นที่รักของคนทั่วไป แต่หากมองในแง่ร้าย ต้นชวนชมจะชักชวนให้คนมาเชยชม จึงไม่เหมาะที่จะนำมาปลูกภายในบ้านที่มีลูกสาววัยแรกรุ่น
นอกจากนี้ ยางของต้นชวนชมค่อนข้างจะเป็นอันตราย หากไปสัมผัสโดนเข้า หรือกระเด็นเข้าตาอาจเกิดอันตรายได้
7. ต้นชบา ในสมัยโบราณ ไม่นิยมปลูกต้นชบาเอาไว้ในบริเวณบ้าน เพราะดอกชบานั้น มักถูกนำไปโยงเกี่ยวกับในเรื่องของการเกิดคดีความ
เนื่องจากเชื่อว่าเป็นดอกไม้อัปมงคลเพราะในอดีตมีการนำพวงมาลัยดอกชบาไปสวมคอนักโทษที่กำลังจะถูกประหารชีวิต ดังนั้นจึงไม่ควรจะนำมาปลูกไว้ในบ้านเพราะอาจจะเกิดเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลได้
8. ต้นงิ้ว คนส่วนใหญ่มีความรู้สึกไม่ค่อยดีขึ้นมาทันที เพราะต้นงิ้วเป็นต้นไม้ใหญ่มีหนามแหลมคมและในนิทานชาดก เรื่องนางกากี ที่พระยาครุฑลักพาตัวนางไปจากพระโพธิสัตว์ นำไปสมสู่อยู่บนวิมานฉิมพลี
ทำให้ต้นงิ้วเป็นสัญลักษณ์แห่งการมีชู้ เป็นไม้ที่ไม่เป็นมงคล
9. ต้นนางแย้มป่า ห้ามปลูกต้นนางแย้มป่าในบ้านโดยเด็ดขาด ตามความเชื่อว่าต้นนางแย้มป่าเป็นต้นไม้ที่มีภูตผีปีศาจสิงอยู่ หากปลูกไว้ภายในบ้าน วันดีคืนดี ต้นนางแย้มป่าจะสำแดงอิทธิฤทธิ์ ทำร้ายรังแกผู้คนในบ้านให้หวาดผวาเสียขวัญ หรือเจ็บไข้ได้ป่วย
10. ต้นลีลาวดี ถึงแม้ดอกลั่นทมจะได้เปลี่ยนชื่อเป็นลีลาวดีและมีคนบางกลุ่มนำมาปลูกไว้ในบ้านเพราะดอกลั่นทมจะมีลำต้นใหญ่แข็งแรงงดงาม กลีบดอกสวยงามละมุนตากลิ่นหอมจับใจ แต่คนไทยที่ยังยึดกับชื่อเดิมก็ยังไม่นิยมปลูกลั่นทมเอาไว้ในบ้าน
เพราะเชื่อกันว่า ชื่อของต้นไม้ชนิดนี้ไม่เป็นมงคลเพราะคำว่าลั่นทมออกเสียงใกล้เคียงกับคำว่าระทม จนเชื่อกันว่า หากใครปลูกต้นลั่นทมไว้ในบ้าน คนทั้งบ้านก็จะมีแต่ความทุกข์ระทม คู่ครองจะห่างเหิน จะมีแต่ความทุกข์
บทความนี้ไม่มีเจตนาสื่อไปในทางงมงาย เป็นเพียงความเชื่อตำนานเล่ากันมาจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งปัจจุบันความเชื่อเหล่านี้ได้เลือนลางหายไปบ้างแล้ว เป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่การปลูกต้นไม้ก็เป็นสิ่งดี ทำให้บ้านร่มรื่นน่าอยู่ อีกทั้งยังช่วยลดโลกร้อนอีกด้วย
ขอบคุณภาพจาก : TNEWS / โซเชียลมีเดีย