อาถรรพ์วันพระ วันปล่อยผี วันปล่อยของ 2 ความเชื่อในวันพระ
สมัยโบราณ คนไทยบางท้องถิ่นมีความเชื่อเรื่องดวงวิญญาณ และนำมาซึ่งอีกหลายความเชื่อในปัจจุบันที่ยังคงมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อเรื่องวันโกน วันพระ วันปล่อยผี และวันปล่อยของนั่นเอง
ความเชื่ออาถรรพ์ในวันพระ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใข้วิจารณญาณ ในก่ารอ่าน คืน วันโกน และคืน วันพระ เป็นคืนอาถรรพ์ และในเดือนหนึ่งจะมีวันพระอยู่ 4 วัน ได้แก่ ขึ้น 8 ค่ำ,แรม 8ค่ำ และ ขึ้น 15 ค่ำ,แรม 15 ค่ำ โดยคืนก่อนวันพระ เรียกว่า วันโกน ซึ่งก็คือ ขึ้น 7 ค่ำ,แรม 7ค่ำ และ ขึ้น 14 ค่ำ,แรม 14 ค่ำ นั่นเอง
และว่ากันว่า ในวันโกนและวันพระนั้น นอกจากจะมี การปล่อยของ ของผู้ศึกษาไสยศาสตร์มนต์ดำแล้ว ยังเป็นการ ปล่อยผี อีกด้วย หากท่านได้ยินเสียงแปลกประหลาด เสียงเรียก หรือเสียงหวีดร้องของเหล่าผีเปรต อสูรกาย ให้ฟังคำที่คนโบราณท่านเตือนว่า อย่าทักหรือขานรับเด็ดขาด
วันปล่อยผี บางท้องถิ่นจะมีความเชื่อว่า วันพระเป็นวันปล่อยผี หรือปลดปล่อยดวงวิญญาณ อีกทั้งเชื่อว่า ในวันพระ ในวันพระใหญ่ขึ้น 15 ค่ำ ยมโลกจะงดการทรมานสัตว์ที่ได้รับโทษทัณฑ์หนึ่งวันและเปิดโอกาสให้สัตว์นรกเหล่านั้นสามารถรับบุญจากมนุษย์ได้ จึงทำให้เชื่อว่าใน วันพระใหญ่ จะมีวิญญาณออกมามากมายกว่าปกติ เพื่อมาขอส่วนบุญกับมนุษย์ จึงเป็นที่เล่าขานกันในสมัยโบราณว่ามักจะมีเปรตออกมากรีดร้อง มาขอส่วนบุญในวันพระ
ขณะที่ในบางความเชื่อก็ว่า ในยมโลกจะหยุดทรมานสัตว์นรกเท่านั้นแต่ไม่ได้ปล่อยให้ออกมา ส่วนในมหานรก หรือนรกขุมใหญ่ สัตว์นรกก็ยังคงรับกรรมของตนตามปกติ อย่างไรก็ดี ความเชื่อนี้ เป็นสิ่งที่คนสมัยก่อนบอกเล่าสืบมา เพื่อให้ลูกหลานได้ ทำบุญถือศีลในวันพระ แล้ว อุทิศบุญให้บรรพบุรุษที่ล่วงลับ หรือวิญญาณทั้งหลายที่ไม่ใช่ญาติก็ตาม ซึ่งการอุทิศบุญให้วิญญาณ ก็เป็นการทำบุญอีกประการหนึ่งเช่นกัน
วันปล่อยของ โดยความเชื่อแล้วการปล่อยของของผู้ที่เล่น วิชาทางไสยศาสตร์ จะมีทั้งปล่อยของใน วันอังคาร วันเสาร์ หรือไม่ก็ วันโกน วันพระ เพื่อไม่ให้ของนั้นเข้าตัว เพราะหากไม่ปล่อยของ ก็จะเกิดความเดือดร้อนแก่ตนเอง ทำให้ตนเองต้องมีอันเป็นไปต่างๆ นานา จึงต้องปล่อยของออกไป โดยไม่จำเพาะเจาะจงว่าจะต้องทำใส่ใคร คือปล่อยออกไปแล้ว ก็สุดแท้แต่เวรกรรมของผู้ใดที่จะโดนของนั้นๆ เรียกว่า ลมเพลมพัดนั่นเอง
ซึ่งคนที่จะถูกลมเพลมพัด โดนของที่ถูกปล่อยมา ได้ จะต้องมีวาระกรรมที่มาถึงตัวแล้วเท่านั้น จะหลบอย่างไรก็หลบไม่พ้น และต้อง หาทางแก้หรือ การถอนของเข้าตัว กันต่อไป แต่หากผู้ใดยังไม่มีวาระกรรมที่จะมาถึงก็จะไม่ถูกลมเพลมพัด ขณะเดียวกันก็มีวิธีป้องกันตามที่คนโบราณบอกไว้ เช่น หากวันพระวันโกน มีเสียงดังอะไรเกิดขึ้น ก็อย่าไปทัก เพราะอาจจะเป็นของที่ถูกปล่อยออกมา หากไปทักเข้าของนั้นก็อาจจะเข้าตัวได้
สำหรับ ความเชื่อเกี่ยวกับวันพระ นั้นมีอยู่อย่างหลากหลาย แตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่นที่ได้ยินได้ฟังมา ส่วนจะเชื่อหรือไม่ก็สุดแท้แต่วิจารณญาณของแต่ละบุคคล หากแต่พิจารณาแล้ว ความเชื่อเหล่านี้ก็มีประโยชน์อยู่ไม่น้อย เพราะได้โน้มน้าวชักจูงให้คนทำความดี ละเว้นความชั่ว เพียงแค่ไม่กี่วันในหนึ่งเดือนก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำ เพราะอาจเป็นจุดเริ่มต้นของใครหลายคนที่อยากทำความดีในทุกๆ วัน ไม่ใช่เฉพาะวันพระเท่านั้น
ขอบคุณ : Tnews / โซเชียลมีเดีย