เปิดประวัติ วัดเชียงทอง เที่ยววัดที่ไม่ได้มีดีแค่วัด

วัดเชียงทอง พะเยา วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ ต.ท่าทอง อ.เมือง จังหวัดพะเยา วัดนี้มี พระครูไพจิตร ธรรมาภรณ์ เป็นเจ้าอาวาสวัดเชียงทอง 

วัดเชียงทอง เป็น วัดสวยในจังหวัดพะเยา เมื่อปี 2563 วัดแห่งนี้เริ่มเป็นที่รู้จักเนื่องจาก วัดเชียงทองได้สร้างหอระฆัง 9 ชั้น ถวาย รัชกาล ที่ 9 เป็นจุดชมวิวแบบ 360 องศา ที่มองเห็นไกลด้วยสายตา ถึง 4 อำเภอ

วัดเชียงทอง เป็นวัดเดียวในจังหวัดพะเยา มีเจ้าอาวาสและประชาชมร่วมแรงร่วมใจกันสร้างหอระฆัง 9 ชั้นขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 สถานที่แห่งนี้ยังมีประชาชนในพื้นที่และนอกพื้นที่เดินทางมาเที่ยวชมภายในวัดและขึ้นชมวิวทิวทัศน์บนหอระฆังสูง 9 ชั้น เพื่อชมวิวแบบ 360 องศา มองเห็นถึง 4 อำเภอของจังหวัดพะเยา มองรอบได้ถึง 4 ทิศ ถือว่าเป็นหอระฆังที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดพะเยาและเป็นหนึ่งเดียวของจังหวัดพะเยาอีกด้วยค่ะ

สำหรับ หอระฆังวัดเชียงทอง ถือว่าเป็นหอระฆังที่สร้างขึ้นอยู่ตรงจุดศูนย์กลางที่ตั้งของการมองเห็นด้วยตาเปล่า ได้ 4 อำเภอคืออำเภอเมืองพะเยา อำเภอแม่ใจ อำเภอภูกามยาว และ อำเภอดอกคำใต้ หรือมองได้ 4 ทิศทาง ทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก ครบ 360 องศา และเมื่อขึ้นมาชมทิวทัศน์บนหอระฆังแล้วจะพบว่ามีลมเย็นๆ พัดผ่านตลอดเวลา และทางวัดจะเปิดให้บุคคลทั่วไปตลอดจนนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวขึ้นหอระฆัง 9 ชั้นดูชมทิวทัศน์ ได้ฟรีทุกวันหากบุคคลทั่วไปตลอดจนนักท่องเที่ยวต้องการจะเข้ามาเที่ยวชมที่วัดเชียงทองสามารถติดต่อสอบถามได้ที่พระครูไพจิตร ธรรมภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเชียงทอง หมายเลขโทรศัพท์ 089-9559979

พระครูไพจิตร ธรรมภรณ์ เจ้าอาวาสวัดเชียงทอง กล่าวว่า วัตถุประสงค์ทำหอระฆังคือกุศโลบายให้คนได้เข้ามาเยี่ยมเยียนวัดเป็นการเชื่อมโยงกับหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกี่ยวกับหลักธรรมมรรคคือองค์แปดเกี่ยวกับหลักธรรมมรรคองค์แปด คือหอระฆังจะนำไปมัดแขวนไว้ที่ชั้นแปด เพื่อให้บุคคลขึ้นไปเยี่ยมชม ได้ทั้งสี่ทิศทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก ทิศตะวันตก มองเห็นได้ 4 อำเภอ คือ อำเภอเมืองพะเยา อำเภอแม่ใจ อำเภอภูกามยาว และอำเภอดอกคำใต้แบบ 360 องศา รอบทิศทางด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจน

วัดเชียงทอง เป็นวัดสวยในจังหวัดพะเยา เมื่อปี 2564 วัดแห่งนี้ได้ เปิดร้าน นะโม ตัด สระ เชียงทองบาร์เบอร์ ตัดผมฟรีช่วยญาติโยม

ในยุคที่โควิดระบาดทั่วบ้านทั่วเมืองไทย ทางเจ้าอาวาสวัดเชียงทอง พร้อมลูกศิษย์ ได้เปิดร้าน นะโม ตัดสระ จัดพระและช่างผม ช่างอาสาตัดผมฟรีทั้งหญิง ชาย เด็ก ผู้ใหญ่ เพื่อช่วยเหลือญาติโยมในยุคที่โควิดระบาด 

ภายในร้าน นะโม ตัด สระ มีการนำข้าวของโบราณในยุคเก่า มาประดับตกแต่งร้านให้ดูย้อนยุค พระครูไพจิตร กล่าวว่า เปิดร้านเพื่อเป็นการอนุรักษ์ร้านตัดผมแบบดั้งเดิมเพื่อไว้เป็นที่ดูชมและศึกษา ตลอดจนช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือนร้อน

วัดเชียงทอง เป็นวัดสวยในจังหวัดพะเยา เมื่อปี 2565 วัดแห่งนี้ได้กลับมาเป็นที่สนใจของประชาชนอีกครั้ง เมื่อชาวเน็ตได้แห่แชร์ วัดเชียงทอง เปิดร้านโชว์ห่วยพานิช ซื้อขายเอง ราคาตามใจ 

วัดเชียงทอง วัดดัง เมืองกว๊านพะเยา เปิด ร้านโชว์ห่วยพานิช ขายทุกอย่าง โดยมีกิมมิคที่ให้ผู้ซื้อ ซื้อเองขายเอง และที่สำคัญคือจ่าย ราคาตามใจฉัน หลังจากซื้อเองขายเองแล้วให้นำเงินใส่ตู้บริจาคที่วางไว้ โดยจะใส่กี่บาทกี่สตางค์ก็ตามใจฉัน โดยทางร้านโชว์ห่วยจะมีขายทุกอย่างทั้งขนม ของเล่น น้ำเย็นนมกล่องผลไม้กล่องรวมทั้งมีเครื่องดื่มทุกชนิดเกือบทุกแบรนด์แช่ในตู้เย็นไว้บริการแก่ประชาชนที่เข้ามากราบไหว้พระเที่ยววัดอีกด้วย

วัดเชียงทอง พะเยา วัดแห่งนี้ไม่ได้มีดีแค่วัดสวยเท่านั้น วัดเชียงทองยังจัดแสดง พิพิธภัณฑ์ความทรงจำ ท้องถิ่นอีกด้วย

พิพิธภัณฑ์ความทรงจำ วัดเชียงทอง ริเริ่มโดยพระครูไพจิตธรรมาภรณ์ (อดุลย์) เจ้าอาวาสวัดเชียงทอง ที่ท่านเป็นผู้ที่ชื่นชอบสะสมของเก่ามาตั้งแต่วัยเยาว์ก่อนจะบวชเป็นพระ จนกระทั่งเมื่อบวชเป็นพระในปี พ.ศ. 2523 จึงได้เริ่มนำข้าวของส่วนตัวที่สะสมและรวบรวมวัตถุต่างๆ ที่ชาวบ้านบริจาคมา และยังได้ร่วมแรงร่วมใจกับคนทั้งนอกและในชุมชนจัดทอดผ้าป่า ของเก่าทุกอย่างที่ชาวบ้านไม่ใช้นำมาทอดเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ความทรงจำแห่งนี้ จนมีมากกว่า 1,000 ชิ้น ของส่วนใหญ่เป็นของใช้ร่วมสมัยที่มีอายุ 20-80 ปี คือสมัยที่คุณตาคุณยายยังเด็ก อาทิ กล่องไม้ขีด โปสเตอร์ใบปิดหนัง ทีวีรุ่นเก่า กล่องสบู่ ผงซักฟอก รวมถึงจัดแสดงพระพุทธรูปไม้ เครื่องใช้ทางการเกษตร โดยท่านตั้งใจต้องการให้ผู้ชมได้มีโอกาสเห็นข้าวของเหล่านี้ เพราะในปัจจุบันหาดูที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว หวังว่าเมื่อใครได้มาเห็นก็จะเกิดความทรงในอดีตขึ้นมา ควบคู่กับยุคสมัยปัจจุบัน

ข้อมูลภาพจาก : วัดเชียงทอง จังหวัดพะเยา