เปิดตำนานความรัก ที่ไม่สมหวัง เรื่องที่เกิดขึ้นจริง

14 กุมภาพันธ์ 2567

ตำนานรัก "โลงคู่" วัดหัวลำโพง ย้อนรอยชีวิตสีดา กับ ความรักที่ไม่สมหวัง สู่ตำนานรัก "โลงคู่" วัดหัวลำโพง วันนี้รายการปาฏิหาริย์ ช่วงเจนจิราหามาเล่า จะพาไปย้อนดูตำนานนี้กันค่ะ

สีดา” เป็นเรื่องราวจากชีวิตจริงเมื่อ ปี 2510 ของสาวประเภทสองที่ชื่อ ประโนตย์ วิเศษแพทย์ รุ่นพี่ที่สนิทสนมกับประโนตย์ เล่าว่า ปัจจุบันความสวยของสาวประเภทสองเป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป แต่สำหรับเมื่อก่อน ประโนตย์สวยเกินกว่าผู้หญิงบางคน และไม่มีสาวประเภท 2 คนใดเทียบได้เลย “สีดา” บางส่วนของเรื่องราวที่ผู้แต่งจำเป็นต้องดัดแปลงไป ทำให้มีบางเสี้ยวของเหตุการณ์ต่างไปจากความเป็นจริง ในบทเพลง หมายถึง นางเอกนาฏศิลป์โขนของกรมศิลปากรเมื่อเกือบ 40 ปีก่อน หากแต่ชีวิตจริงเขาสิ่งที่ทำให้ประโนตย์โดดเด่นมากที่สุดในยุคนั้นก็คือความสวย

เปิดตำนานความรัก ที่ไม่สมหวัง เรื่องที่เกิดขึ้นจริง

ปัจจุบันมีหลักฐานและภาพถ่ายของประโนตย์เหลืออยู่ไม่มากนัก ประโนตย์ เธอเกิดเมื่อปี 2481 เป็นบุตรของ นายยงค์ และหม่อมหลวงหญิง บุญนาค วิเศษแพทย์ ซึ่งเป็นครอบครัวมีฐานะดี ประโนตย์มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน และด้วยความที่เป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของบ้าน จึงเปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ ประโนตย์เติบโตขึ้นท่ามกลางการถูกรุมล้อมด้วยพี่น้องที่เป็นผู้หญิง และค่อย ๆ ซึบซับความอ่อนหวานเรียบร้อยแบบผู้หญิงของคนรอบข้างไว้อย่างไม่รู้ตัว

หลังเรียนจบระดับประถมที่โรงเรียนใกล้บ้าน ย่านซอยสวนพลู ประมาณปี 2492 ด้วยความสนใจในการแสดงตั้งแต่เยาว์วัย และการสนับสนุนของผู้เป็นแม่ ประโนตย์จึงตัดสินใจสอบเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนนาฏศิลป์ กรมศิลปากร หรือ วิทยาลัยนาฏศิลปในปัจจุบัน นอกจากจะเป็นจุดเริ่มต้น ทำให้ประโนตย์เป็นที่รู้จักในชื่อของ “สีดา” แล้ว ที่นี่ยังเปิดโอกาสให้เขาสามารถแสดงบุคลิกที่เบี่ยงเบนไปจากเพศที่แท้จริงของตนเองได้อย่างอิสระเสรี

เปิดตำนานความรัก ที่ไม่สมหวัง เรื่องที่เกิดขึ้นจริง

เปิดตำนานความรัก ที่ไม่สมหวัง เรื่องที่เกิดขึ้นจริง

การสวมบทบาทสตรีเพศ และ ความอ่อนหวานงดงามของศิลปะ เป็นส่วนส่งเสริมให้ร่างกายและจิตใจของประโนตย์ เปลี่ยนแปลงมาเป็นผู้หญิงอย่างเต็มตัว สามารถแต่งตัวเป็นผู้หญิงได้ตามอย่างที่ใจปรารถนา เพราะขณะนั้นสภาพสังคมไทยยังไม่ยอมรับพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ ประโนตย์ในวัย 14 ปี จึงมักลักลอบหนีออกไปแสดงโขนกับบุคคลภายนอก ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางโรงเรียนนาฏศิลป์ขณะนั้นไม่อนุญาตอย่างเด็ดขาด รวมทั้งเริ่มคบหากับเพื่อนต่างโรงเรียนที่มีลักษณะเดียวกัน และทำให้ชีวิตในโรงเรียนนาฏศิลป์ของประโนตย์สิ้นสุดลงในเวลาเพียง 3 ปี

เปิดตำนานความรัก ที่ไม่สมหวัง เรื่องที่เกิดขึ้นจริง

ประโนตย์มีอิสระเสรีมากขึ้นและยังคงใช้ชีวิตวนเวียนอยู่ในแวดวงของนาฏศิลป์โขน โดยร่วมกับเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน ใช้วิชานาฏศิลป์ที่ติดตัวมารับแสดงโขนตามงานการกุศลต่าง ๆ ซึ่งต่อมาได้สร้างชื่อเสียงให้เธอเป็นที่รู้จักในนามของ “สีดา” สีดาคือนางในวรรณคดีไทยเรื่องรามเกียรติ ที่มีความงดงามอย่างมาก ช่วงเวลานี้เองที่ครูน้อย หรือ สุรพล โทณวณิก ได้มีโอกาสชมการแสดงของประโนตย์ และความสวยของเธอที่ยังคงประทับอยู่ในความทรงจำ จึงกลายเป็นต้นกำเนิดของบทเพลง “สีดา” ในอีก 22 ปีต่อมา

เปิดตำนานความรัก ที่ไม่สมหวัง เรื่องที่เกิดขึ้นจริง

ความงามของ ปราโนตย์ วิเศษแพทย์ นี้เป็นที่โด่งดังมากในหมู่สาวประเภทสองในยุคนั้น หลังออกจากการเป็นนักเรียนของวิทยาลัยนาฏศิลป์ เธอเริ่มเดินสายประกวดนับครั้งไม่ถ้วน ลงเวทีไหนเป็นต้องชนะเวทีนั้น เรียกว่าสวยไร้คู่แข่ง จนบรรดาเพื่อนร่วมรุ่นถึงกับข่มขู่เวทีประกวดสาวงามประเภทสอง ในยุคนั้นว่า  “ถ้าเวทีไหนมีปราโนตย์ นางโนตย์ เข้าประกวด คนอื่นจะไม่ยอมลงประกวดด้วย” ในแวดวงสาวงามประเภทสอง มีการตั้งฉายาให้ ปราโนตย์ วิเศษแพทย์ ว่า “นางงาม 50 มงกุฎ” เพราะสวยแบบไร้คู่แข่ง

เปิดตำนานความรัก ที่ไม่สมหวัง เรื่องที่เกิดขึ้นจริง

ปราโนตได้พบรักกับชายหนุ่มชื่อ สมบูรณ์ ทั้งคู่คบหาและอยู่กินกันนานถึง 8 ปีเต็ม สุดท้ายก็เลิกรากันไปและนายสมบูรณ์ก็หันไปคบกับผู้หญิงอื่น จนผ่านไปสองสามปี ปราโนตก็ได้มาเจอกับ สมชาย แก้วจินดา หรือ ชีพ มีอาชีพขับรถรับจ้าง รูปหล่อ สุภาพ เรียบร้อย พูดจาดี ทั้งคู่ตกลงปลงใจและย้ายมาอยู่ด้วยกันที่บ้านพักย่านซอยสวนพลู แต่แล้วปัญหาเดิมก็กลับมาทำร้ายคนทั้งคู่ นั่นคือความหวาดระแวง หึงหวง ครั้งหนึ่งทั้งคู่ได้ไปสาบานต่อกันที่วัดพระแก้วและศาลหลักเมืองว่า “ถ้าเราไม่ซื่อสัตย์ต่อกันก็ขอให้ตายด้วยกัน ถ้าสีดาตายก่อน ชีพจะต้องตายตามไป แต่ถ้าชีพตายก่อน สีดาก็จะต้องตายตามไป”

หลังจากนั้นทั้งคู่ได้ทะเลาะกันอีกหลายครั้ง สุดท้ายจึงตัดสินใจแยกกันอยู่ ปราโนตคิดตลอดเวลาว่า เธอไม่ใช่หญิงแท้ เธอจึงระแคะระคายว่าชีพจะมีผู้หญิงอื่นมาติดพัน จนเป็นสาเหตุให้ทั้งคู่กลับมาทะเลาะกันอีกครั้ง เรื่องนี้เป็นสาเหตุที่ตอกย้ำความเชื่อของเธอจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป ปราโนตได้ตัดสินใจดื่มยาและพยายามปลิดชีพตัวเองอยู่หลายครั้ง แต่ก็มีคนช่วยชีวิตไว้ได้ทัน และในการพยายามปลิดชีพตัวเองครั้งสุดท้ายเป็นผลสำเร็จ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2510 ลมหายใจสุดท้ายของปราโนตก็หมดสิ้นลงอย่างโดดเดี่ยวในบ้านพักของเธอ เมื่อ ชีพ ทราบข่าวก็ได้แต่พร่ำพูดแต่ประโยคที่ว่า “ผมจะตามพี่ไป พี่รอผมด้วย” พลางร้องไห้กอดร่างของปราโนตแน่น เย็นวันเดียวกันนั้นเอง ชีพได้บวชอุทิศส่วนกุศลให้กับปราโนต

หลังจากสวดศพครบ 3 คืน เณรชีพตัดสินใจสึก จากนั้นได้นำสมบัติที่ซื้อร่วมกันไปจำนำ และนำเงินที่ได้ไปให้แก่คนในบ้าน และได้เขียนจดหมายสั่งเสียว่า “ขอให้นำเงินจำนวนดังกล่าวนี้เพื่อทำฌาปนกิจของเขา ขอให้พี่ๆ ช่วยเป็นภาระในการเลี้ยงดูแม่ ส่วนร่างของเขาให้เอาไว้ที่วัดหัวลำโพงคู่กับร่างของโนต” ต่อมา ชีพ ก็จบชีวิตลงด้วยวิธีเดียวกับสีดา และเสียชีวิตเมื่อตอนเที่ยงวันที่ 15 พฤษภาคม 2510 (เดือน – ปีเดียวกัน)

เปิดตำนานความรัก ที่ไม่สมหวัง เรื่องที่เกิดขึ้นจริง