เจดีย์สามองค์ วัดศาลากุล วัดไทยเพียงวัดเดียวบนเกาะเกร็ด

20 มิถุนายน 2567

วันนี้รายการปาฏิหาริย์ จะพาทุกคนไปทำความรู้จัก เจดีย์สามองค์ วัดศาลากุล ที่อยู่ในเกาะเกร็ด เป็นวัดไทยเพียงวัดเดียวที่อยู่ในนั้น มีอายุหลายร้อยปี แต่ปัจจุบัน เจดีย์สามองค์หายไปไหน?

เจดีย์สามองค์วัดศาลากุล หรือ เจดีย์สามองค์วัดศาลากุน เป็นวัดไทยเพียงวัดเดียวที่อยู่ในเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี สร้างขึ้นสมัยธนบุรี และยังมีโบราณวัตถุเก่าแก่ เช่น โต๊ะหมู่บูชาขนาดใหญ่ประดับมุก เครื่องแก้วเจียระไน และหีบศพประดับมุก นอกจากนี้ วัดศาลากุล แห่งนี้มีชื่อเสียงในการปลุกเสกเครื่องรางของขลัง ที่รู้จักกันในนาม “หนุมานหลวงปู่สุน” นั่นเองค่ะ

 

เจดีย์สามองค์ วัดศาลากุล วัดไทยเพียงวัดเดียวบนเกาะเกร็ด

เจดีย์สามองค์วัดศาลากุล หายไปไหน? 

 

เกิดเป็นคำถามคาใจสำหรับชาวเน็ต ที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ สิปปกร ปุดจีน ได้โพสต์ภาพและระบุแคปชั่นว่า เจดีย์สามองค์วัดศาลากุล บัดนี้อันตรธานสูญไปแล้ว ไปดูความคิดเห็นส่วนมากกันค่ะ บ้างก็ว่า เสียดาย, กรมศิลป์ไม่ว่าไรหรอ, แบบใหม่สวยงามสะอาดสะอ้านหมดจด จนไม่เหลือคุณค่าความงามของอดีตแห่งเจดีย์สามองค์, เจดีมีอายุกี่ปีแล้วครับเนี่ย
เสียดายน่าจะอนุรักษ์ไว้, วัดเอาไปไว้ที่ไหนครับ, อยากให้มีหน่วยงานเข้าตรวจสอบนะ ว่าทำๆไม เอาไปไหน มีเหตุผลอะไรที่จำเป็นต้องทำแบบนี้ไหม หรือแค่หมดประโยชน์ หาเงินได้จำนวนนึงแล้วก็เอาออกงี้เหรอ? , น่าเสียดายมากค่ะ คนในพื้นที่ คณะกรรมการวัด เจ้าอาวาส มีมติแบบไหนน้อ ทำไมถึงทำแบบนี้น้อ เป็นต้น 

 

 

หากพิจารณาจากภาพในโพสต์ดังกล่าวจะเห็นได้ว่า บริเวณฝั่งซ้ายเคยมีเจดีย์เก่าแก่ตั้งอยู่ ซึ่งตอนนี้กลายเป็นพื้นที่ราบเรียบปูพื้นกระเบื้องอย่างไรก็ตามควรรอ ว่า ทางวัดศาลากุลจะออกมาชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นนี้อย่างไร กับการหายไปของ เจดีย์สามองค์ บนเกาะเกร็ด ทีนี้มาทำความรู้จัก วัดศาลากุล กันค่ะ
 

 

ขอบคุณ : สิปปกร ปุดจีน

ประวัติเจดีย์สามองค์ นนทบุรี 

 

วัดศาลากุล น่าจะเป็นวัดที่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย แต่เดิมมีชุมชนที่มีประชากรไม่มากนัก เนื่องจากพื้นที่เป็นชายตลิ่งที่เป็นที่ดินงอก สัญจรไม่สะดวก เมื่อเริ่มสร้างวัดคงอยู่ไม่ห่างจากแม่น้ำมากนักและมีคลองวัดศาลากุลเป็นทางเชื่อมแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อมาที่ดินงอกออกไปมาก ทำให้วัดอยู่ห่างจากแม่น้ำเจ้าพระยามาก

วัดถูกปล่อยทิ้งร้างตั้งแต่ครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 จนกระทั่งประมาณสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย มีเรือสำเภามาจอดที่ปากด่านเพื่อรอรับสินค้า เช่น ครั่ง ข้าว ไม้ฝาง ฯลฯ เพื่อนำไปขายต่างประเทศ จนเจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ (กุน) สมุหนายกที่ได้รับราชการตั้งแต่ครั้งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มาจนถึงสมัยรัชกาลที่ 2 ตัวท่านเป็นคนจีน ได้มาสร้างศาลาให้บริวารพักบริเวณใกล้วัด ชาวบ้านเรียกศาลานี้ว่า ศาลาเจ้าคุณกุน หรือ ศาลาจีนกุน รวมทั้งเป็นชื่อเดิมของเกาะเกร็ดด้วย เมื่อการค้าสำเภายกเลิกไป บริเวณนี้จึงสงบเงียบจึงได้กลายมาเป็นวัด วัดนี้ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในปี พ.ศ. 2394

 

มีอุโบสถลักษณะทรงโบราณ 2 ชั้น ขนาด 5 ห้อง หลังคาลด 2 ชั้น มีมุขคลุมชานชาลาทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ และคันทวยปูนประดับกระจก หน้าบันเป็นปูนปิดทองประดับกระจก วิหารด้านใต้อุโบสถ มีวิหารประดิษฐานรูปหล่ออดีตเจ้าอาวาส ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ เจดีย์และกุฏิสงฆ์

 

วัดมีวัตถุโบราณได้แก่ หีบมุกและโต๊ะหมู่มุกที่หลวงพ่อสุนสร้างขึ้นมา มีการประดับมุกไฟอย่างดี ฝีมืองดงามมาก พร้อมเครื่องแก้วเจียระไนชุดใหญ่

 

วัดศาลากุล มีพระเกจิอาจารย์ผู้มีความเก่งกล้าสามารถในการปลุกเสกเครื่องรางของขลังที่มีชื่อเสียงในยุคเก่า อย่างหลวงพ่อสุ่น ได้รับสมญาว่า ขุนกระบี่วานร ฤทธิเกริกไกร หนึ่งในสยาม ในวงการพระเครื่อง หนุมาน หลวงพ่อสุ่น ถือว่าเป็นสุดยอดของขลังหนึ่งในชุดเบญจภาคี ที่นักสะสมต้องหามาไว้ครอบครองบูชา 

 

วัดศาลากุล อยู่ที่ไหน : ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลเกาะเกร็ด เป็นวัดไทยวัดเดียวในตำบลเกาะเกร็ด สร้างโดย เจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ (กุน) ตั้งแต่สมัยธนบุรี โบราณสถานของวัดล้วนสร้างขึ้นใหม่ คือ อุโบสถลักษณะทรงโบราณ 2 ชั้น ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ เจดีย์และกุฏิสงฆ์ และยังมีโบราณวัตถุเก่า เช่น โต๊ะหมู่บูชาขนาดใหญ่ประดับมุก เครื่องแก้วเจียระไน และหีบศพประดับมุก นอกจากนี้ วัดศาลากุลแห่งนี้มีชื่อเสียงในการปลุกเสกเครื่องรางของขลังที่รู้จักกันในนาม “หนุมานหลวงปู่สุน” ซึ่งมีความเชื่อว่ามีพุทธคุณเด่นทางแคล้วคลาด คงกระพัน และมหาอำนาจ จนเป็นที่นิยมของ บุคคลทั่วไปจนถึงทุกวันนี้   หีบมุกและโต๊ะหมู่มุก   หลวงพ่อสุนอดีตเจ้าอาวาสวัดศาลากุลท่านได้สร้างหีบมุกพร้อมโต๊ะหมู่ชุดใหญ่ที่ ประดับมุกไฟอย่างดี และฝีมืองดงามมาก พร้อมเครื่องแก้วเจียระไนชุดใหญ่ นับเป็นงานศิลปะชั้นสูงที่มีความ งดงาม และมีคุณค่ายิ่งที่เป็นสมบัติของวัดศาลากุล  เครื่องมุกและเครื่องแก้วเจียระไนเป็นที่นิยมมากในสมัยรัชกาล ที่ 5  

 

เจดีย์สามองค์ หายไปไหน

 

สรุป : ไปไหว้พระขอพรได้นะคะ ตามสถานที่ที่เราให้ไปเบื้องต้น แต่หากอยากรู้ว่า เจดีย์สามองค์หายไปไหน ต้องรอทางวัดเป็นผู้แถลงไข ต่อไปค่ะ  ล่าสุด 20 มิ.ย. 67 เจ้าอาวาสวัดดัง แจงเหตุรื้อเจดีย์โบราณ ชี้ ไม่ได้อยู่ในบัญชีกรมศิลป์ ยันจะสร้างขึ้นใหม่ให้สวยงาม