รู้จัก “จันทรุปราคา” รับปรากฏการณ์ “ราหูอมจันทร์” ครั้งหลังของปี 2567
ปรากฏการณ์ “ราหูอมจันทร์” หรือ “จันทรุปราคา” คือคำตอบของคำถามนี้ เป็นเหตุการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจ ที่ดวงจันทร์ค่อยๆ หายไปจากท้องฟ้าราวกับถูกกลืนกิน เมื่อโลกบดบังแสงอาทิตย์ไม่ให้ส่องไปถึงดวงจันทร์
"จันทรุปราคา" หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “ราหูอมจันทร์” เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ โคจรมาอยู่ในแนวเดียวกัน ทำให้โลกบดบังแสงอาทิตย์ไม่ให้ส่องไปยังดวงจันทร์ ส่งผลให้ดวงจันทร์มืดลงหรือหายไปชั่วคราว
ประเภทของจันทรุปราคา
จันทรุปราคาแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่
- จันทรุปราคาเต็มดวง: เกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์ทั้งดวงเข้าไปอยู่ในเงามืดของโลก ทำให้ดวงจันทร์มืดสนิทชั่วขณะ
- จันทรุปราคาบางส่วน: เกิดขึ้นเมื่อบางส่วนของดวงจันทร์เข้าไปอยู่ในเงามืดของโลก ทำให้มองเห็นดวงจันทร์เป็นเสี้ยว
- จันทรุปราคาเงามัว: เกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์ผ่านเข้าไปในเงามัวของโลก ทำให้ความสว่างของดวงจันทร์ลดลงเล็กน้อย แต่ด้วยตาเปล่าอาจสังเกตเห็นได้ยาก
จันทรุปราคาครั้งหลังของปี 2567
ในปี 2567 นี้ มีปรากฏการณ์จันทรุปราคาเกิดขึ้น 2 ครั้ง โดยครั้งหลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 19 กันยายน 2567 ซึ่งเป็น จันทรุปราคาบางส่วน นั่นหมายความว่า เงามืดของโลกจะบังดวงจันทร์ไปเพียงบางส่วน ทำให้เราได้เห็นดวงจันทร์เป็นเสี้ยว
เหตุผลที่เรียกว่า “ราหูอมจันทร์”
ในทางโหราศาสตร์ไทยเชื่อกันว่าปรากฏการณ์จันทรุปราคาเกิดจากราหูซึ่งเป็นดาวมฤตยูกลืนกินดวงจันทร์ จึงเรียกปรากฏการณ์นี้ว่า “ราหูอมจันทร์” ซึ่งเป็นความเชื่อที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ
การสังเกตจันทรุปราคา
การสังเกตจันทรุปราคา นั้นไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษใดๆ เพียงแค่หาสถานที่ที่มองเห็นท้องฟ้าได้กว้างและไม่มีสิ่งกีดขวาง ก็สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า อย่างไรก็ตาม การใช้กล้องสองตาหรือกล้องโทรทรรศน์ จะช่วยให้เห็นรายละเอียดของดวงจันทร์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ข้อควรระวัง: ไม่ควรใช้กล้องส่องทางไกลหรือกล้องโทรทรรศน์ที่มีกำลังขยายสูงในการส่องดวงอาทิตย์โดยตรง เพราะอาจทำให้สายตาเสียหายได้
ความสำคัญของจันทรุปราคา
นอกจากจะเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามแล้ว จันทรุปราคายังมีความสำคัญในด้านวิทยาศาสตร์อีกด้วย นักดาราศาสตร์ใช้ข้อมูลจากการสังเกตจันทรุปราคาเพื่อศึกษาเกี่ยวกับขนาด รูปร่าง และการเคลื่อนที่ของดวงจันทร์ โลก และดวงอาทิตย์
ขอบคุณข้อมูลจาก : สถาบันวิจัยดาราศาสตร์