บอสพอลไม่ใช่คนไทย? เบื้องหลังครอบครัว สตอรี่เคยบอกว่าโตมาจากไหน
บอสพอลไม่ใช่คนไทย? เบื้องหลังครอบครัว "บอสใหญ่ดิไอคอนกรุ๊ป" สตอรี่เคยบอกว่าโตมาจากไหน หลังพบบัตรขึ้นต้นด้วยเลข 5
คำถามที่ว่า "บอสพอลไม่ใช่คนไทย?" ได้รับความสนใจขึ้นมาทันที จากการที่ตำรวจตรวจสอบไปถึงประวัติผู้บริหารของเครือข่าย โดยเฉพาะ บอสพอล ที่เป็นผู้บริหารสูงสุด พบว่ามีเลขประจำตัวประชาชนขึ้นต้นด้วยเลข 5 จึงถูกตั้งข้อสันนิษฐานว่า บอสพอล อาจไม่ใช่คนไทย หรืออาจเป็นคนบุคคล 2 สัญชาติ หรืออาจมีการแจ้งเกิดช้า
สำหรับเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก เลขแต่ละหลักจะสื่อถึงความหมายต่างๆ โดยหลักแรก หมายถึงประเภทบุคคลซึ่งมี 8 ประเภท เช่น เลข 3 จะบ่องบอกถึง คนไทยและคนต่างด้าว ที่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว
และมีชื่อในทะเบียนบ้านในสมัยเริ่มแรก (คือตั้งแต่ก่อนวันที่ 31 พฤษภาคม 2527) หมายความว่า บุคคลใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างด้าว ที่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในสมัยเริ่มแรก
สำหรับเลข 5 หรือ บุคคลประเภทที่ 5 คือ คนไทยที่ได้รับอนุมัติให้เพิ่มชื่อ เข้าไปในทะเบียนบ้านในกรณีตกสำรวจ หรือกรณีอื่นๆ หรือเป็นกรณีที่มี 2 สัญชาติ
ก่อนหน้านี้ พอล วรัตน์พล หรือ บอสพอล แห่ง ดิไอคอนกรุ๊ป เล่าว่า ตนเติบโตมาในครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวย เขาจึงเริ่มทำงานหาเลี้ยงชีพตั้งแต่ยังเรียนหนังสือ รับจ้างเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารยามค่ำคืน ควบคู่ไปกับการทำงานพิเศษอื่นๆ เพื่อแบ่งเบาภาระครอบครัว และหาเงินส่งเสียตัวเองเรียน
แม้จะได้งานประจำหลังเรียนจบ แต่รายได้จากเงินเดือนพนักงานบริษัทก็ยังไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย พอลจึงไม่ย่อท้อ ใช้เวลาว่างหลังเลิกงาน หารายได้พิเศษด้วยการทำงานพาร์ทไทม์ต่าง ๆ ความขยันหมั่นเพียร และความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตัวเอง ทำให้เขามีรายได้เพิ่มขึ้น
ด้วยประสบการณ์จากการทำงานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นพนักงานเสิร์ฟ พนักงานบริษัท หรือพนักงานขาย ล้วนหล่อหลอมให้พอลเป็นคนอดทน แข็งแกร่ง และมีทักษะในการเข้าสังคม ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ช่วยให้เขาประสบความสำเร็จในฐานะผู้ประกอบการ
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า สตอรี่ของบอสพอล ก่อนหน้านี้เคยมีการออกรายการโทรศัพท์ เล่าว่ามีแม่เป็นกรรมกรอยู่ในคลองเตย เติบโตจากสลัม และดิ้นรนจนประสบความสำเร็จเป็นผู้บริหารสูงสุด
ทั้งนี้ล่าสุดมีรายงานว่า บอสพอล โผล่ บก.ปคบ. เผยกับสื่อว่าในวันนี้มาแสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ยอมรับว่าตนออกมาช้ามา หลังเกิดเหตุการณ์ขึ้นมาเป็นสัปดาห์
ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็มีความตั้งใจจะช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ประสบปัญหาต่างๆ ทั้งสูญเสียเงิน และสูญเสียชีวิต ตนต้องไปขอตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้วหาแนวทางร่วมกัน โดยมีตัวกลางที่สังคมให้ความเชื่อถือเข้ามาให้ความเชื่อมั่นเพื่อให้เกิดความยุติธรรมสูงสุด
อย่างไรก็ตาม บอสพอล ยืนยันว่าทำธุรกิจมา 6 ปี ไม่เคยคิดว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เพราะไม่ใช่คนแรกและเจ้าแรกที่ทำธุรกิจเช่นนี้