"โอปอล สุชาตา" รอง 3 Miss Universe 2024 ตัวแทนสาวไทย โปรไฟล์ไม่ธรรมดา

  จบไปแล้ว สำหรับการประกวด Miss Universe 2024 ครั้งที่ 73 จัดขึ้นที่ประเทศเม็กซิโก  โอปอล สุชาตา ช่วงศรี สาวงามวัย 21 ปี คว้าตำแหน่งรองอันดับ 3 Miss Universe 2024 และ รางวัล Voice for Change Silver  รวมแล้วเก็บ 2 รางวัลกลับบ้านมาฝากคนไทย 

 

เปิดประวัติ โอปอล สุชาตา โอปอล สุชาตา เกิดเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2546 ปัจจุบันอายุ 21 ปี  สูง 180 เซนติเมตร ภูมิลำเนาเป็นคนจังหวัดภูเก็ต โดยครอบครัวประกอบอาชีพธุรกิจโรงแรม โฮมเพลส โฮเทล  

โอปอล จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา (ศิลป์-จีน) และศึกษาระดับปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยสามารถพูดได้ถึง 3 ภาษา คือ ไทย จีน และอังกฤษ

ก่อนหน้านี้ โอปอล เคยตรวจพบก้อนเนื้อที่บริเวณหน้าอก ตอนเธออายุได้ 16 ปี  แต่เคราะห์ดีที่สามารถผ่าตัดออกได้ทัน และชิ้นเนื้อยังไม่พัฒนาถึงขั้นมะเร็ง ด้วยเหตุผลนี้ทำให้เธอตระหนักถึงภัยอันน่ากลัวของโรคมะเร็งเต้านม และเริ่มเข้าสู่วงการนางงาม เพื่อสร้างความตระหนักแก่ผู้หญิงถึงความน่ากลัวของโรคมะเร็งเต้านม

 

 โอปอลแเริ่มเข้าสู่วงการนางงามด้วยการประกวด นางงามรัตนโกสินทร์ เมื่อปี 2564 หลังจากนั้นเธอก็ได้เข้าประกวดเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 และคว้าตำแหน่งรองอันดับ 3 มาได้ ก่อนที่จะปรับตำแหน่งมาเป็นรองอันดับ 2 เนื่องจากผู้ที่ได้รับตำแหน่งรองอันดับ 1 ในปีนั้นสละตำแหน่งไป

 

 โอปอล กลับมาอีกครั้ง หลังจาก Miss Universe Thailand 2022   ในฐานะตัวแทนจากกรุงเทพมหานคร ลงประกวด Miss Universe Thailand 2024 ซึ่งถูกยกให้เป็นตัวเต็งที่น่าจับตามมอง โดยในรอบพรีลิม โอปอลได้รางวัลพิเศษถึง 4 รางวัล คือ Miss Extravaganza, VOICE FOR CHANGE, WOMEN INSPIRED 2024 และรางวัลขวัญใจช่างภาพและสื่อมวลชน จนกระทั่งในรอบไฟนอล โอปอลก็สามารถคว้ามงกุฎ Miss Universe Thailand 2024 มาครองได้สำเร็จ

 

 สำหรับการประกวด Miss Universe 2024  โอปอล ก็ยังเป็นตัวเต็ง และเข้ารอบลึกถึงรอบ 5 คนสุดท้าย ก่อนคว้าตำแหน่งรองอันดับ 3 Miss Universe 2024 นอกจากนี้ โอปอลยังคว้ารางวัล Voice for Change Silver กลับมาฝากคนไทย  ซึ่งรางวัลดังกล่าวนั้นเป็น โครงการประกวดคลิปวิดีโอ Voice for Change ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่าง MOUAWAD , CI Talks และมิสยูนิเวิร์ส เพื่อรณรงค์ให้ผู้เข้าประกวดส่งเสียงเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในสังคมนั่นเอง