"หนุ่ม กรรชัย" เปิดปม "ดิว อริสรา" กับหนี้ 62 ล้าน หลายคนนึกไม่ถึง

มาดามเมนี่ หรือ เมย์ วาสนา อินทะแสง ไฮโซพันล้านเจ้าของแบรนด์ดัง ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวที่เป็นปริศนาหลังจากที่ของแบรนด์เนมหรู เช่น สร้อย นาฬิกา และกระเป๋า มูลค่ากว่า 62 ล้านบาท ที่เธอให้เพื่อนยืมไป กลับไม่ได้รับคืน และสุดท้ายก็ทำให้เธอต้องแจ้งความกับตำรวจเพื่อเอาผิด หลังจากทราบว่าของเหล่านี้ถูกขายและกระจายไปตามร้านต่างๆ ตั้งแต่ปี 2567 ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งกับดาราสาวที่ยืมของไป คือ ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์

 

เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยจาก มดดำ คชาภา ที่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ของแบรนด์เนมที่ยืมไปนั้นถูกขายไปยังร้านต่างๆ และตอนนี้มาดามเมนี่ได้แจ้งความกับตำรวจแล้ว ส่วนทาง หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรชื่อดังก็ได้เปิดเผยชื่อของดาราสาวที่ยืมของไป ซึ่งก็คือ ดิว อริสรา พร้อมเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เป็นเรื่องของความเชื่อใจที่ผิดพลาด และเกิดจากการให้ความช่วยเหลือกันในอดีต

 

หนุ่ม กรรชัย ได้อธิบายรายละเอียดว่า เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นจาก ดิว อริสรา ที่ติดหนี้ ซุง ศตาวิน นาคทองเพชร อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง และหลังจากนั้น ดิวได้ไปปรึกษา เมย์ วาสนา ว่าเธอกำลังประสบปัญหาทางการเงินและต้องการเงินเพื่อใช้หนี้ ซุง ซึ่งเมย์ยินดีที่จะช่วย แต่ไม่มีเงินสดพร้อมให้ ยกเว้นว่า ดิวสามารถขอยืมเงินจากบริษัทของเมย์ ซึ่งดิวได้ลงทุนในบริษัทนั้น

 

เมย์อธิบายว่าเงินดังกล่าวถูกลงทุนในธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารเด็ก ซึ่งไม่สามารถเอาออกมาได้ทันที แต่หลังจากนั้น ดิวก็ขอยืมของแบรนด์เนมหรูต่างๆ ของเมย์ไปเป็นหลักประกันสำหรับการใช้หนี้ โดยเมย์เข้าใจว่าดิวจะเอาของไปวางไว้เพื่อค้ำประกัน และภายใน 15-20 วันจะนำเงินมาใช้หนี้และของจะต้องกลับมาที่เมย์ แต่สุดท้ายของเหล่านั้นไม่ได้กลับมาหลังจากเวลาผ่านไป และเมย์เริ่มทวงถาม แต่ดิวบอกว่าเงินยังไม่มา

 

กระทั่งในเดือนมกราคม 2568 เมย์พบว่า ของที่ให้ดิวไปค้ำประกันถูกขายไปแล้ว ซึ่งทำให้เธอถึงกับตกใจและตัดสินใจที่จะฟ้องร้องในข้อหาฉ้อโกง เนื่องจากของเหล่านั้นไม่ได้เป็นการจำนำตามที่ตกลงกัน แต่ถูกขายไปแล้วเพื่อแลกกับเงิน

 

หนุ่ม กรรชัย ยังได้อธิบายถึงคำถามที่หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมถึงสามารถให้ยืมเงินจำนวนมากขนาดนั้น โดยเขาบอกว่า "มันเรื่องของคนรวย" เพราะสเกลของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าคนที่มีพันล้านยืม 62 ล้าน ก็อาจจะมองว่าเป็นจำนวนที่ไม่เยอะมาก แต่สำหรับคนที่มีเงินไม่มาก ก็จะมองว่าเป็นเงินจำนวนมหาศาล