ราเชล คุปตะ บอกโดนละเลย - บังคับ ลั่นไม่ได้อยากเป็นแม่ค้าออนไลน์

เกิดดราม่าบนเวทีนางงาม เมื่อองค์กร Miss Grand International ประกาศปลด ราเชล คุปตะ จากตำแหน่ง Miss Grand International 2024 โดยระบุว่าเธอไม่ทำตามข้อตกลง ทั้งไม่ร่วมกิจกรรมที่กัวเตมาลา และรับงานอื่นโดยไม่ขออนุญาต พร้อมเรียกคืนมงกุฎภายใน 30 วัน

 

ต่อมา ราเชลออกมาเปิดใจผ่านวิดีโอว่า ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเป็น "ช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต" หลังคว้ามงกุฎ ทุกอย่างกลับแย่ลง เธอเผยว่าต้องเผชิญความกดดัน การคุกคาม และการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมจากระบบขององค์กร

 

เธออ้างว่าการประกวดเปิดช่องให้ "ซื้อคะแนน" ผ่านการบริจาค ซึ่งเธอไม่ได้ทำเพราะไม่มีเงินพอ และแม้จะอาศัยอยู่ในไทยหลายเดือน องค์กรก็ไม่ดูแลเรื่องที่พักหรือความเป็นอยู่ บางครั้งต้องอยู่ในบ้านห่างไกล ไม่มีรถ ซิม หรือครัวใช้ชีวิตอย่างลำบาก

 

นอกจากนี้ยังถูกวิจารณ์เรื่องรูปร่าง โดยตัวแทนองค์กรเคยบีบตามจุดต่าง ๆ ของร่างกายและบอกให้ลดน้ำหนัก ซึ่งสร้างความอับอายและกดดันอย่างมาก เธอบอกว่าการโพสต์โซเชียลก็ลำบาก เพราะไม่มีคนช่วยถ่าย ไม่มีอะไรให้ทำ

 

"เหตุผลเดียวที่ฉันมาอยู่ตรงนี้ คือการเป็นกระบอกเสียง ไม่ใช่การไลฟ์ขายสินค้าบนติ๊กต็อก แต่เป็นทำงานกับองค์กรการกุศล จริง ๆ พวกเขายกเรื่อง ‘หยุดสงครามและความรุนแรง’ มา แต่มันปลอมทั้งหมด ไหนละ การหยุดสงครามและความรุนแรงอยู่ที่ไหน? ฉันได้ยินคำพูดที่ว่า ‘มันไร้ประโยชน์ คนไม่สนใจ ไม่ทำเงิน ดังนั้นเราจะไม่ได้ทำ’

 

และฉันก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายสถานการณ์นั้นได้ไหม แต่เมื่อพวกเขายื่นสัญญามา ราวกับปืนจ่อหัว ปากกาเป็นของพวกเขา กระดาษของพวกเขา ถิ่นก็ถิ่นพวกเขา สัญญาของพวกเขา กฎของพวกเขา เราถูกคาดหวังให้นั่งลง เงียบปาก และเซ็น ฉันพยายามเจรจา หรืออย่างน้อยก็ให้ทนายดูสัญญา แต่ถูกปฏิเสธมาว่า 'ถ้าไม่อยากเซ็น ก็ไม่ต้องเซ็น กลับบ้านไป'"

ราเชลยังเผยว่าได้รับเงินเดือนแค่เดือนแรก หลังจากนั้นไม่มีการจ่ายอีกเลย จนต้องขอเงินพ่อแม่ใช้ บางครั้งเงินที่เก็บไว้ยังหายโดยไม่มีการช่วยเหลือจากองค์กร อีกทั้งเธอผิดหวังกับเป้าหมายของเวที ที่แทนจะเน้นการสร้างความเปลี่ยนแปลงกลับกลายเป็นเน้นขายของ

 

เธอยังกล่าวว่า การเซ็นสัญญาเหมือนโดนบังคับ ไม่มีโอกาสให้ทนายตรวจสอบ และถูกปฏิเสธการเจรจา โดยสุดท้าย ราเชลประกาศคืนตำแหน่ง พร้อมเตือนสาว ๆ ที่คิดจะเข้าประกวดให้ตระหนักว่า องค์กรไม่ได้ใส่ใจผู้ชนะอย่างแท้จริง พร้อมทิ้งท้ายว่า "เมื่อหมดประโยชน์ เขาก็ไม่เหลียวแล"