ระวัง "ลูกเนียง" กินดิบเสี่ยงไตวายเฉียบพลันถึงขั้นเสียชีวิต

กรมอนามัยเตือน กิน "ลูกเนียงดิบ" เสี่ยงไตวายเฉียบพลันถึงขั้นเสียชีวิต พร้อมแนะนำวิธีลดความเป็นพิษก่อนกิน
กรมอนามัยเตือน กิน "ลูกเนียงดิบ" เสี่ยงไตวายเฉียบพลันถึงขั้นเสียชีวิต เนื่องจากพบสารพิษ "กรดเจงโคลิค" ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่มีกรดกำมะถันสูง ทำลายระบบไต แนะวิธีลดพิษก่อนบริโภค พร้อมย้ำหากมีอาการผิดปกติหลังรับประทาน ให้รีบพบแพทย์ทันที
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบและยืนยันแล้ว กินลูกเนียงดิบ เสี่ยงไตวาย เป็นความจริง
ลูกเนียง (Djenkol bean) เป็นผักที่นิยมกินโดยเฉพาะภาคใต้ของไทย ส่วนที่นำไปรับประทาน คือ เมล็ดข้างในเปลือก มีกลิ่นฉุน รสชาติมัน รับประทานได้ทั้งผลอ่อนและแก่ ในด้านความเป็นพิษลูกเนียงมีสาร ที่เรียกว่า “กรดเจงโคลิค (djenkolic acid)” เป็นกรดอะมิโนที่มีกรดกำมะถันสูง สารพิษชนิดนี้จะทำลายระบบประสาทของไตให้เสื่อมลง หากอาการรุนแรงจะทำให้ไตล้มเหลวหรือไตวายจนถึงเสียชีวิตได้
ความเป็นพิษจากลูกเนียงโดยทั่วไปพบได้น้อย โดยรายที่มีอาการมักสัมพันธ์กับการกินลูกเนียงดิบปริมาณมากร่วมกับการดื่มน้ำน้อย ปริมาณที่ทำให้เกิดพิษนั้นมีรายงานตั้งแต่ 1-20 เมล็ด พบว่ามีอาการทางไต ปวดเอว ปวดบริเวณขาหนีบ ปัสสาวะลำบาก น้ำปัสสาวะขุ่นเป็นสีน้ำนม และอาจปัสสาวะเป็นเลือด บางรายมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ในรายที่รุนแรงอาจปัสสาวะไม่ออก ซึ่งเรียกว่า นิ่ว และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในเด็ก ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายได้เอง 3-4 วัน บางรายมีไข้ต่ำ ปัสสาวะน้อยและมีความดันโลหิตสูงได้
ดังนั้นจึงแนะนำให้ระมัดระวังในการรับประทานลูกเนียง โดยวิธีการลดพิษในลูกเนียงให้น้อยลง คือ นำเมล็ดไปเพาะในทราย ให้มีหน่อต้นอ่อนงอกออกมา หรือนำเมล็ดไปต้มให้สุก หรือหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ แล้วนำไปตากแดดก่อนรับประทานโดยตรง หากมีอาการสงสัยอาหารเป็นพิษจากลูกเนียง หรือหลังกินแล้วมีอาการผิดปกติ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียน มึนงง ให้รีบไปพบแพทย์และบอกประวัติการกินอาหารที่สงสัยให้เจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อให้การรักษาถูกต้องและทันเวลา

นางเอกดัง "เบลล่า ราณี" สุดเศร้า สูญเสียคุณยายอันเป็นที่รัก

"เบิร์ด เทคนิค" สูญเสียครั้งใหญ่ สุดเศร้าโลกนี้ช่างใจร้ายกับผม

ข่าวดี รัฐบาลขยายเวลา "คุณสู้ เราช่วย" ถึงสิ้นเดือนนี้

โดนแล้ว "พีช สมิทธิพัฒน์" สารภาพ 3 ข้อหา เผยค่าปรับที่ต้องชดใช้
