ไขข้อสงสัย ฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ ใส่อาหาร ฆ่าเชื้อโรค ได้หรือไม่

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ไขข้อสงสัย ฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ ใส่อาหาร ฆ่าเชื้อโรค ลดเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ได้หรือไม่
นายแพทย์เอกชัย เพียรศรีวัชรา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพและโฆษกกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีประชาชนบางกลุ่มมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า แอลกอฮอล์ประเภทเหล้าหรือสุราและแอลกอฮอล์ ฟู๊ดเกรดสามารถนำไปฉีดอาหารฆ่าเชื้อโรคหรือเชื้อโควิด-19 ได้นั้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้วแอลกอฮอล์ฟู๊ดเกรดไม่ได้ใช้เพื่อการกินโดยตรง แต่มักใช้ในการผลิตอุตสาหกรรมประเภทเวชสำอางค์ อาหาร รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และส่วนมากจะมีความเข้มข้นน้อยกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ จึงไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ ซึ่งจากข้อมูลขององค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริการะบุว่า ความเสี่ยงจากการติดเชื้อผ่านทางอาหารและภาชนะบรรจุอาหารนั้นมีค่อนข้างต่ำ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยแนะนำให้กินอาหารสดใหม่ ปรุงสุกด้วยความร้อนอุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียลขึ้นไป นาน 5 นาที ใช้ช้อนกลางส่วนตัว และปฏิบัติตามมาตรการ DMHTT ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
นายแพทย์เอกชัย กล่าวต่อไปว่า ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ระบุว่า โรคโควิด-19 สามารถแพร่จากคนสู่คนผ่านทางละอองน้ำมูก น้ำลายจากจมูกหรือปากโดยออกมาเมื่อผู้ป่วยโรคโควิด-19 ไอ จามหรือพูด ละอองเหล่านี้ค่อนข้างหนัก ไปไม่ได้ไกล และจะตกลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว ผู้คนจึงรับเชื้อโรคโควิด-19 ได้จากการหายใจเอาละอองเข้าไปจากผู้ป่วย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกคนต้องรักษาระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1 เมตรโดยละอองเหล่านี้ยังตกลงสู่วัตถุและพื้นผิวต่าง ๆ เช่น โต๊ะ ลูกบิดประตู ราวจับ และเมื่อมีคนเอามือไปจับพื้นผิวเหล่านั้นแล้วมาจับตา จมูกหรือปาก ก็จะมีเชื้อโรค จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงต้องล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือใช้แอลกอฮอล์เจลถูมือ
“ทั้งนี้ สำหรับแอลกอฮอล์ตามท้องตลาดที่นิยมขายกันทั่วไปจะมี 2 ชนิด คือ เมทิลแอลกอฮอล์และเอทิลแอลกอฮอล์ ซึ่งราคาของเอทิลแอลกอฮอล์จะสูงกว่าเล็กน้อยแต่คุณสมบัติของแต่ละชนิดต่างกันมากโดยเอทิลแอลกอฮอล์สามารถใช้กับร่างกายมนุษย์ได้ เช่น ผสมในยาที่ใช้กิน ผสมในสุราหรือเครื่องดื่มประเภทของมึนเมาหรือใช้ทาภายนอกร่างกาย เช่น ล้างแผล ผ้าเย็น กระดาษเช็ดหน้า สเปรย์ เป็นต้น ส่วนเมทิลแอลกอฮอล์ เป็นแอลกอฮอล์ชนิดมีพิษ ใช้สำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ใช้เป็นเชื้อเพลิงจุดให้แสงสว่าง หรือปนกับทินเนอร์ สำหรับผสมแลคเกอร์ แต่ห้ามใช้กับร่างกายมนุษย์เด็ดขาด ซึ่งคุณสมบัติของแอลกอฮอล์แต่ละชนิดไม่สามารถนำมาใช้แทนกันได้ เพราะจะทำให้ผู้บริโภคได้รับอันตราย เช่น ตาบอดหรือในบางรายอาจจะเสียชีวิตได้” ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพและโฆษกกรมอนามัย กล่าว
ขอบคุณ กรมอนามัย

ราชกิจจาฯ ประกาศ แต่งตั้งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ จำนวน 14 ราย

"หมอดัง" เตือน ยาคู่ยอดฮิตหายปวดแต่ไตพัง กินผิดชีวิตเปลี่ยน

"ทนายดัง" เคลียร์ชัด ใครถูกผิด ปมเดือดกระบะ vs บีเอ็มป้ายแดง

แม่ดีใจ เจอแล้ว "น้องแบม" สาวน้อย 15 เปิดใจถึงสาเหตุ หนีออกจากบ้าน
