อย. แนะ ไม่สมควรทำ "ฉีดแอลกอฮอล์" ใส่ "ข้าว" เป็นความเชื่อที่ผิด
ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน ทำให้หลายคนหาวิธีต่าง ๆ นานา มาเพื่อป้องกันตนเอง จนทำให้มีคนจำนวนมากนำแอลกอฮอล์ไปฉีดใส่ข้าวเพื่อฆ่าเชื้อและป้องกันโควิด-19 การนำแอลกอฮอล์ไปฉีดใส่ข้าวเพื่อฆ่าเชื้อและป้องกันโควิด-19 สามารถทำได้หรือไม่ มาติดตามกันเลย
เอทิลแอลกอฮอล์ (Ethyl Alcohol) มีลักษณะเป็นของเหลวใส ไม่มีสี สามารถระเหยได้ และไวไฟสูง มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ เชื้อโรคและไวรัสได้ ซึ่งเอทิลแอลกอฮอล์แบบ food grade นั้นผ่านการรับรองสามารถนำมาใช้สำหรับการบริโภคหรือนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารได้ โดยมักจะนำมาใช้เป็นสารช่วยในการผลิตในกระบวนการผลิตวัตถุดิบหรือส่วนประกอบของอาหาร ซึ่งอาจจะมีเหลือตกค้างในผลิตภัณฑ์โดยไม่ได้ตั้งใจได้แต่ในปริมาณน้อยมาก ไม่ได้นำมาใช้บริโภคในลักษณะเป็นส่วนประกอบของอาหาร (ไม่รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์)
ในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่า พบการติดเชื้อโควิด-19 จากการกินอาหารที่ปนเปื้อน อีกทั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 ถูกทำลายได้ง่ายจากสารเคมีที่ใช้ในการฆ่าเชื้อ เช่น น้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของคลอรีน กรดเปอร์อะซิติก คลอโรฟอร์ม แอลกอฮอล์ 75% หรือความร้อนที่ 132.8 องศาฟาเรนไฮด์ (56 องศาเซลเซียส) ต่อเนื่อง 30 นาที ซึ่งความร้อนที่ใช้ในการหุงข้าวสารให้สุกก็เพียงพอที่จะทำลายเชื้อไวรัสได้
ดังนั้นการเอาแอลกอฮอล์มาฉีดใส่ข้าวเพื่อฆ่าเชื้อนั้น "เป็นความเชื่อที่ผิด และไม่สมควรทำ" เพราะการหุงข้าวให้สุกก็สามารถฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ และหากนำข้าวสารที่ฉีดแอลกอฮอล์ไปหุง แอลกอฮอล์ก็จะระเหยไปได้ เป็นการเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ แนะนำให้ผู้บริโภคกินอาหารที่ปรุงสุก ไม่ควรกินอาหารดิบเนื่องจากเสี่ยงได้รับจุลินทรีย์ก่อโรค เช่น แบคทีเรียที่ทำให้ท้องเสีย อาหารเป็นพิษ ไวรัสก่อโรค และปรสิต เช่น พยาธิ ได้ หากพบเห็นผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ได้รับความปลอดภัยจากการบริโภคสามารถร้องเรียนมาได้ที่สายด่วน อย. 1556
ขอบคุณ อย.