ความเชื่อ

heading-ความเชื่อ

เปิดตำนานอาถรรพ์ ประตูเมืองลับแลแห่ง "ภูลังกา"

29 พ.ย. 2564 | 22:39 น.
เปิดตำนานอาถรรพ์ ประตูเมืองลับแลแห่ง "ภูลังกา"

อาถรรพ์เมืองลับแล เมืองที่มองไม่เห็น ก็ไม่ได้แปลว่าไม่มีอยู่จริง เมืองที่ต้องรักษาสัจจะวาจา คนมีบุญเท่านั้นจึงจะได้เข้าไปถึงเมืองลับแล

บทความนี้โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านเป็นความเชื่อเฉพาะท้องถิ่น Thainews จะพาย้อนตำนานดินแดนแห่งเมืองบังบด หรือ เมืองลับแล ภูลังกา

เมืองบังบด เรื่องเล่านี้ทราบจากผู้เล่าว่า หลวงปู่วัง เทพเจ้าแห่งภูลังกา พระเกจิดังท่านได้เล่าให้ฟังว่า มีชาวบ้านเป็นชาวเมืองบังบดมานิมนต์ท่าน คืนหนึ่งเมื่อท่านนั่งสมาธิพอจิตสงบแล้ว ท่านได้เห็นสิ่งหนึ่งคล้ายกับเปลของเด็กลอยมาหน้าถ้ำนาคา เปลนั้นก็ลอยต่ำลงมาอยู่ท้ายถ้ำ มีคนมาในนั้น 5 คน มีทั้งคนหนุ่มคนชรา มีทั้งหญิงและชาย เมื่อเขามาก็มากราบท่าน แล้วแจ้งความประสงค์ว่า จะมานิมนต์ท่านให้ไปอยู่เมืองบังบดกับเขา เมืองนั้นอยู่บริเวณป่าตาดน้ำตกแถวนั้น

หลวงปู่วัง (เทพเจ้าแห่งภูลังกา)

เมื่อท่านได้กวาดสายตาดู ก็พบหญิงคนหนึ่งที่ท่านได้พบในตอนกลางวันวันก่อน ท่านจึงทักว่าโยมเคยมาหาอาตมาแล้วมิใช่หรือ ผู้หญิงคนนั้นจึงประนมมือตอบท่านว่าใช่แล้ว ที่ไม่เข้ามาหาท่านวันนั้นเพราะเห็นท่านอยู่รูปเดียว เห็นว่าเป็นเวลาไม่เหมาะสมจึงไม่กล้ามากราบท่าน แล้วหลวงปู่วังก็บอกเขาไปว่าอยู่กับพวกท่านไม่ได้ ชาวเมืองบังบดได้ตอบกลับมาว่า ถ้าไม่ไปอยู่กับเขาแล้ว ที่เณรทั้ง 3 รูปนั้นไปเก็บเส้นเทาหรือสาหร่ายน้ำมากินตามบริเวณหินที่มีน้ำไหลตลอดที่ตาดน้ำตกนั้นต่อไปนี้จะไม่มีอีกแล้ว เมื่อท่านได้รับคำนิมนต์ของเขาแล้ว ชาวเมืองบังบดก็กราบลากลับ ขึ้นเปลเหาะไปเหมือนตอนเขามา ต่อมาก็แปลกมากคือ สาหร่ายน้ำที่เกิดอยู่ที่นั่นไม่มีอีกเลย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตำนานประตูเมืองลับแล ต่อมาเป็นเหตุการณ์ของหนุ่มบวร ซึ่งเป็นหลานชายของหลวงปู่วัง อยากจะบวชเป็นพระแต่ว่าอายุยังไม่ครบบวช หลวงปู่วังให้นุ่งขาวห่มขาวถือศีล 8 ฝึกปฏิบัติธรรมไปก่อน วันหนึ่งบวรไปแสวงหาต้นตาวในป่าภูลังกา จะเอาต้นตาวมาต้มแกงถวายพระเณรในตอนเช้า บวรได้หายตัวไปไม่กลับมาอีกเลย พระเณรได้ข่าวก็ออกตามหา จะกระทั่งมืดค่ำก็ยังไม่พบร่องรอยใดๆ หลวงปู่วังได้นั่งสมาธิดูก็ได้พบว่า บวรไปอยู่กับสาวงามชาวลับแล อยู่กินเป็นสามีภรรยากันเสียแล้ว เป็นไปตามเหตุปัจจัย เขาเคยเป็นคู่กันมาแต่ชาติก่อน ดั่งบุพเพสันนิวาสบันดาลให้มาเจอกันเพราะเป็นเนื้อคู่กัน

ภูลังกา

หลวงปู่วังเล่าว่าบ้านเมืองของชาวลับแลนั้นคล้ายเงาสะท้อนของบ้านเรือนมนุษย์ตามยุคสมัยในถิ่นนั้นๆ เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย เพราะมีความเกี่ยวข้องผูกพันกันอย่างลึกลับตามกฏแห่งวิบากกรรม บ้านเรือนของชาวลับแลที่เห็นในสมาธินั้นเป็นบ้านใต้ถุนสูง หลังคามุงหญ้า และแฝกฝาบ้านทำด้วยไม้ไผ่หรือใบตองตึงและขัดแตะ พื้นบ้านปูไม้กระดานหยาบๆ หรือปูด้วยไม้ไผ่สับ ส่วนบ้านชาวลับแลผู้มีฐานะดีหรือคุณธรรมสูงเป็นตึกโบกปูน หลังคามุงกระเบื้อง บางหลังมุงด้วยไม้ ส่วนฝาบ้านเป็นไม้ประดิษฐ์เป็นตาตารางสี่เหลี่ยมและสามเหลี่ยมงามเรียบๆ ที่เห็นนี้เป็นสมัยเมื่อ 50-60 ปีก่อนโน้น (สมัยโลกาภิวัตน์อย่างปัจจุบัน บ้านเมืองชาวลับแลก็คงจะเจริญพัฒนาเช่นเดียวกันกับโลกมนุษย์เราละกระมัง)

พระบังบด หลวงปู่วัง ภูลังกา

ชาวลับแลในสมัยนั้น พวกผู้ชายส่วนมากจะนุ่งผ้าขาวม้าขัดเตี่ยวผืนเดียว เดินเท้าเปล่าไม่มีรองเท้า ไม่ใส่เสื้อ ส่วนผู้หญิงจะนุ่งผ้าซิ่นมีผ้าคาดหน้าอกใช้แทนเสื้อเป็นส่วนมาก แต่สำหรับชาวลับแลที่มีฐานะดีหรือคุณธรรมสูง จะนุ่งห่มรัดกุมเรียบร้อยเหมือนอุบาสกอุบาสิกาในวันพระวันศีลอุโบสถ

ชาวลับแลมีคุณธรรมประจำหมู่เหล่า ถือศีล 5 อย่างเคร่งครัด ภูตผีปีศาจทั้งหลายรักษาศีลไม่ได้ ทำให้ชาวลับแลเป็นผีพิเศษที่มีอำนาจเป็นที่ยำเกรงของภูตผีปีศาจทั้งหลาย ชาวลับแลที่เป็นนักพรตหรือฤๅษีจะนุ่งขาวห่มขาวเกล้าผมมวย เรียกตัวเองว่า คุรุฤๅษี หรือ ดาบส หัวหน้าชาวลับแลได้บอกกับหลวงปู่วังว่า เจ้าหนุ่มบวรมาอยู่เมืองลับแลถูกต้องตามจารีตประเพณีของเมืองลับแล จะกลับออกไปไม่ได้จะต้องดำเนินชีวิตเหมือนชาวลับแลทุกอย่าง หากทำผิดกฎจารีตประเพณีก็จะถูกขับไล่กลับเมืองมนุษย์

เมืองลับแล

ฉะนั้นในระหว่างนี้จะให้บวรกลับถ้ำชัยมงคลไม่ได้หลวงปู่วังเข้าใจกฏจารีตประเพณีนี้ก็อับจนปัญญา ไม่รู้จะช่วยบวรได้อย่างไร จะอธิบายให้ญาติพี่น้องฟังเขาคงจะไม่เชื่อ เพราะเรื่องเมืองลับแลพิสูจน์ไม่ได้เลย ที่เล่าๆ กันมาก็เป็นเชิงนิยายปรัมปราเอาสาระไม่ได้ ญาติพี่น้องคงจะเชื่อว่าบวรตกเหวตาย หรือถูกเสือถูกงูเหลือมกินไปแล้วมากกว่า หัวหน้าชาวลับแลได้บอกว่า พระอาจารย์อย่าได้คิดวิตกเป็นทุกข์ไปเลย ถ้าใครสงสัยเรื่องบวรไปอยู่เมืองลับแล ก็ให้คนนั้นมาที่ภูลังกานุ่งขาวถือศีล 8 มานั่งสมาธิภาวนาอธิษฐานจิตขอเห็นเมืองลับแล อยากจะพบบวรก็จะได้พบสมความปรารถนาหายสงสัย โดยกระผมจะให้คนนำทางมารับเข้าเมืองลับแล ถ้าไม่กล้าเข้าไปในเมืองลับแล ก็ให้เลือกเอาวิธีออกไปยืนกลางแจ้งในเวลากลางวันหรือกลางคืนก็ได้ ร้องตะโกนดังๆ ว่า บวรอยู่ที่ไหน? ก็จะมีเสียงของบวรตะโกนตอบออกมาจากเมืองลับแล จะซักถามอะไรก็ได้ แต่จะพบตัวบวรไม่ได้

ประตูเมืองลับแล

หลวงปู่วังได้เล่าเรื่องนี้ให้พระเณรฟัง ดังนั้นในวันต่อมาพระอาจารย์โง่น โสรโย กับพระเณรและพ่อขาวได้พากันไปพิสูจน์ ออกไปยืนอยู่กลางแจ้งบนภูลังกาในเวลากลางวันร้องตะโกนเรียกหาบวร ก็ปรากฏอัศจรรย์ว่า มีเสียงของบวรตะโกนตอบมาจากดงไม้ในหุบเขา เมื่อซักถามต่างๆ บวรก็ตอบได้ถูกต้องชัดเจนว่าเป็นบวรจริงๆ ไม่ใช่คนอื่นแอบอ้างเป็นตัวบวรแต่อย่างใด บวรได้บอกว่าเขาอยู่สบายดี มีความสุขกับเมียสาวชาวลับแล ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวลับแลเหมือนบ้านเมืองมนุษย์ทุกอย่าง ชาวลับแลไม่ใช่ภูตผี หากเป็นมนุษย์เผ่าหนึ่งที่หายตัวได้กำบังตาได้ ทำให้มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นได้ ยกเว้นแต่ในกรณีที่ชาวลับแลอยากให้เราเห็นถึงจะเห็นได้

ประวัติ เมืองบังบด ภูลังกา
บวรยังได้บอก อีกว่าเขาพอใจจะอยู่ที่เมืองลับแล ไม่อยากกลับออกมาอยู่เมืองมนุษย์เลยขออย่าได้เป็นห่วงเป็นใย ใครได้มาอยู่เมืองลับแลแล้วก็จะติดใจ เพราะมีความสุขกายสบายใจเป็นแดนทิพยสุขมหัศจรรย์อธิบายไม่ถูก ต้องมาเห็นเองถึงจะรู้ได้ด้วยตนเอง

ขอบคุณ / ภาพจาก : TNEWS / โซเชียล

ข่าวเด่น

เอส แอนด์ พี ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขจัดงาน “S&P SWEET HAPPINESS 2025”

เอส แอนด์ พี ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขจัดงาน “S&P SWEET HAPPINESS 2025”

"เบ๊น อาปาเช่" ซัดชาวเน็ตแซะ "มิกซ์" ลูกชายหม่ำ ดังเพราะบารมีพ่อ

"เบ๊น อาปาเช่" ซัดชาวเน็ตแซะ "มิกซ์" ลูกชายหม่ำ ดังเพราะบารมีพ่อ

"ทนายธรรมราช" เผยคำใบ้ "ทนายคนใหม่" ของทนายตั้ม

"ทนายธรรมราช" เผยคำใบ้ "ทนายคนใหม่" ของทนายตั้ม

ศาลไม่ให้ประกันตัว ภรรยา และ ลูกสาวหมอบุญ นำตัวกลับเข้าเรือนจำตามเดิม

ศาลไม่ให้ประกันตัว ภรรยา และ ลูกสาวหมอบุญ นำตัวกลับเข้าเรือนจำตามเดิม

แม่น้ำหนึ่งให้เลขเด็ดมาแรง งวดนี้ 1/12/67 คอหวยห้ามพลาด

แม่น้ำหนึ่งให้เลขเด็ดมาแรง งวดนี้ 1/12/67 คอหวยห้ามพลาด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง