ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าEV ได้ส่วนลด 5-8 แสน รัฐสนับสนุน4 หมื่นล้าน ดีเดย์ 1 ม.ค.65
มาตรการเพื่อให้ประชาชนซื้อรถยนต์ไฟฟ้าEv ครม.เคาะ 21 ธ.ค. 2564 ที่ผ่านมา โดยให้มีผล 1 ม.ค. 65 รัฐจัดหนักลดภาษีศุลกากร สรรพสามิต ขอจัดสรรงบฯกลาง 4 หมื่นล้านจ่ายเงินอุดหนุนคันละ 1.5 แสนบาท
ซื้อรถ EV ได้ส่วนลด 5-8 แสน รัฐสนับสนุน 4 หมื่นล้าน เตรียมดีเดย์วันที่ 1 ม.ค.65 มาตรการเชียร์ให้คนหันมาซื้อ รถยนต์ไฟฟ้า Ev โดยครม.เคาะ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา ให้มีผล 1 ม.ค. 65 รัฐจัดหนักลดภาษีศุลกากร สรรพสามิต ขอจัดสรรงบฯกลาง 4 หมื่นล้านจ่ายเงินอุดหนุนคันละ 1.5 แสนบาท จัด 2 แพ็กเกจให้เลือก กลุ่มราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท-ราคามากกว่า 2 ล้านบาท คนซื้อจะได้รับส่วนลด คันละ 5-8 แสนบาท ค่ายรถ “ยุโรป-จีน-ญี่ปุ่น”
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) จัดทำหลักเกณฑ์เงื่อนไขมาตรการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ในประเทศไทย ตามนโยบายของรัฐบาลเสร็จเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นจะเสนอแพ็กเกจมาตรการดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบให้ทันวันที่ 21 ธ.ค. 2564 นี้ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 ซึ่งตั้งใจว่าจะเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้คนไทยปรับมาใช้รถอีวีกันมากขึ้น
ของบฯกลาง 4 หมื่นล้านหนุน
การดำเนินการกรมสรรพสามิตจะขอตั้งงบฯกลางวงเงิน 40,000 ล้านบาท สำหรับดำเนินมาตรการจูงใจให้ประชาชนซื้อรถอีวี โดยปี 2565 ซึ่งจะขอ ก้อนแรกก่อน 3,000 ล้านบาทซึ่งช่วงต้นปีหน้าจะมียอดจองรถอีวีกว่า 4,000 คัน ส่วนยอดทั้งปีตั้งเป้าสนับสนุนการใช้รถอีวีให้ได้กว่า 7,500 คัน
รัฐอุดหนุนคันละ 1.5 แสนบาท โดยมาตรการดังกล่าวจำแนกรถยนต์อีวีที่จะได้รับประโยชน์ออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มรถยนต์อีวี ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท นอกจากจะได้รับการลดภาษีศุลกากร 40% และลดภาษีสรรพสามิตเหลือ 2% แล้ว จะได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลอีกทางหนึ่ง ซึ่งวงเงินสูงสุดที่รัฐบาลจะสนับสนุนอยู่ที่ 150,000 บาท จะพิจารณาตามขนาดของแบตเตอรี่ หากแบตเตอรี่ต่ำกว่า 30 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง จะได้รับเงินอุดหนุนประมาณ 70,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ที่มีราคาขายประมาณคันละ 400,000-500,000 บาท ถ้าขนาดแบตเตอรี่มากกว่า 30 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง จะได้รับเงินอุดหนุน 150,000 บาท
ส่วนลดคันละ 5-8 แสน รถยนต์อีวีราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท เมื่อเข้าร่วมโครงการนี้สามารถคำนวณได้ง่าย ๆ เช่น รถยนต์อีวีที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่น ราคาประมาณคันละ 2 ล้านบาท จะได้ลดราคาจากอัตราอากรขาเข้าหรือลดภาษีศุลกากร จากเดิมต้องเสียภาษี 20% ลดลงเหลือ 0% เท่ากับราคาลดลง 350,000 บาท ได้ลดอัตราภาษีสรรพสามิตจาก 8% เหลือ 2%
ขอบคุณที่มาจาก:https://www.prachachat.net/