รถยนต์สปอร์ตไฮเปอร์คาร์ McLaren Elva ทั่วโลกมีเพียง 149 คัน ค่าตัว 200 ล้านบาท
รถยนต์สปอร์ตไฮเปอร์คาร์ McLaren Elva ผลิตขึ้นทั่วโลกเพียง 149 คัน ค่าตัว 200 ล้านบาท ในไทยได้จำนวนจำกัดเพียง 2 คัน โดยเป็นรถยนต์ไฮเปอร์คาร์ไร้หลังคาและกระจกบังลมหน้า โครงสร้างแชสซีและตัวถังขึ้นรูปด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา
McLaren Elva ไฮเปอร์คาร์ ค่าตัว 200 ล้านบาท จำกัดเพียง 2 คัน รถยนต์สปอร์ตไฮเปอร์คาร์สมรรถนะสูงในตระกูล Ultimate Series เดินทางจากประเทศอังกฤษ ถูกผลิตขึ้นทั่วโลกเพียง 149 คันเท่านั้น มาเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย โดย “นิชคาร์ กรุ๊ป” เปิดรับจองในราคา 200 ล้านบาท โดยไทยได้รับโควต้าจำนวนทั้งสิ้น 2 คัน และมียอดจองเข้ามาแล้ว 1 คัน เป็นรถยนต์ไฮเปอร์คาร์ไร้หลังคาและกระจกบังลมหน้า โครงสร้างแชสซีและตัวถังขึ้นรูปด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาทั้งหมด
McLaren Elva ถูกพัฒนาให้เป็น Road Car ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดเท่าที่แมคลาเรนเคยผลิตมา
McLaren Elva เป็นรถสำหรับท้องถนน (Road Car) น้ำหนักเบาที่สุด ที่แมคลาเรนเคยผลิตมา เพราะว่าวัสดุส่วนใหญ่ทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมด้วยสมรรถนะอันน่าทึ่งในทุกๆ ด้าน ทั้งการเร่งความเร็ว ความคล่องตัว และการตอบสนองต่อผู้ขับขี่ในระดับที่ไม่ธรรมดา เรียกว่าโดดเด่นด้วย เบาะ 2 ที่นั่งปราศจากหลังคา, กระจกหน้า และหน้าต่างด้านข้าง กันเลยทีเดียว
ขุมพลังเครื่องยนต์ McLaren Elva โดยบล็อกดังกล่าวผลิตกำลังสูงสุดได้ 815 แรงม้า (PS) ที่ 7,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 800 นิวตัน-เมตร ที่ 5,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์คลัทช์คู่ 7 สปีด สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 2.8 วินาที ต่อเนื่องจนถึง 200 กม./ชม. ในเวลาเพียง 6.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 326 กม./ชม. ส่วนถ้าใครสงสัยเรื่องอัตราสิ้นเปลือง รถคันนี้กินน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 11.9 ลิตร ต่อ 100 กิโลเมตร หรือประมาณ 8.4 กม./ลิตร
พร้อมระบบ Adaptive Dynamic Controls สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการควบคุมรถและระบบส่งกำลังได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Comfort, Sport และ Track ตามลักษณะการขับขี่ในขณะนั้น รวมถึงระบบควบคุมเสถียรภาพ Electronic Stability Control (ESC) ปรับได้ 3 ระดับ และระบบ Variable Drift Control (VDC) สำหรับการดริฟต์อีกด้วย
ภายในห้องโดยสาร McLaren Elva ส่วนให้จะใช้คาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบารองรับศีรษะ ไหล่ และหลังของผู้โดยสาร โดยตัวเบาะจะถูกออกแบบให้สั้นกว่าปกติเล็กน้อยเพื่อให้มีพื้นที่พักเท้าเพียงพอสำหรับเพิ่มความสะดวกในการเข้า-ออก และลูกค้าสามารถเลือกติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบ 6 จุด สำหรับใช้ในสนามแข่ง
โดยอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ระบบยกตัวรถ, ล้อฟอร์จอัลลอยแบบ 5 ก้าน (ล้อมาตรฐานเป็นแบบ 10 ก้าน), ยาง Pirelli P Zero Corsa สำหรับสนามแข่ง (ยางมาตรฐานเป็น Pirelli P Zero)
ขอบคุณที่มาจาก:https://www.sanook.com/auto/82703/