เจ้าของสวนเผยเคล็ดลับ การปลูก และส่งออกสร้างมูลค่ามหาศาล
เปิดใจลุงเล็ก เจ้าของสวนเสน่ห์พันธุ์ไม้ เผยเคล็ดลับ การปลูก และส่งออกสร้างมูลค่ามหาศาล และเคล็ดลับในการประสบความสำเร็จ
วันนี้ทีมงานสวนกระแส จะพาไปรู้จักกับ ลุงเล็ก เจ้าของสวนเสน่ห์พันธุ์ไม้ กูรูผู้รวบรวมและขยายพันธุ์มะม่วงจากไต้หวันไว้มากที่สุดในไทย และเผยเคล็ดลับความสำเร็จและการส่งออกสร้างรายได้เพิ่มหลายเท่าตัว อย่างยั่งยืน
คุณเสน่ห์ ลมสถิตย์ หรือ ลุงเล็ก ได้เปิดเผยว่าจุดเริ่มนั้น มาจากชมพู่ก่อนที่จะมาทำมะม่วง ซึ่งชมพู่ชนิดแรกที่ทำนั้นคือ ชมพุ่ทับทิมจันทร์ เนื่องจากมีราคาสูง อยู่ที่กิโลกรัมละ 150-200 บาท แต่พอทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ได้ไปส่งคนกลางแล้วนั้น กลับโดดนตีราคาให้เหลือเพียง กิโลกรัมละ 18 บาทเท่านั้นเอง จึงสู้ไม่ไหว เลยนำผลผลิตที่ได้ไปให้แม่ค้าที่ตลาดนัดจตุจักร ได้ทดลองชิมก่อน หลังจากที่แม่ค้าที่ได้ชิมผลชมพู่ทับทิมจันทร์ไปแล้วก็ชอบจึงได้ติดต่อทาง ลุงเล็ก มาเพื่อขอซื้อกิ่งชมพู่ เพราะสมัยนั้นยังไม่ค่อยมีคนจำหน่าย และให้ทาง ลุงเล็ก ทำกิ่งชมพู่ส่งให้ จึงเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่ทำให้หันมาทำการตอนกิ่งชมพู่เพื่อการจำหน่ายแทน และต้องบอกว่านอกจากชมพู่แล้วยังมีมะม่วงไทยพันธุ์ต่าง ๆ อาทิเช่น ขาวนิยม น้ำดอกไม้มัน รวมถึงมะม่วงสายพันธุ์ไทยอื่นๆ จำหน่ายควบคู่กันไปด้วย
จุดเปลี่ยนที่ทำให้ ลุงเล็ก มีมะม่วงสายพันธุ์ไต้หวันจำนวนมากนั้นมาจาก ขณะที่คุณลุงขายกิ่งพันธุ์มะม่วงไทยและชมพู่นั้นก็ได้มีชาวไต้หวันที่สนใจเข้ามาพูดคุยกับคุณลุงถึงสายพันธุ์มะม่วงของคุณลุงที่มีจำหน่าย และทางด้านคุณลุงเล็กก็ได้มีการเจรจาพูดคุยกันถึงมะม่วงที่ทางไต้หวันมีเยอะ นั้นก็คือมะม่วงลูกสีแดงๆ จึงทำให้คุณลุงเล็ก สนใจและอยากได้เลยให้เพื่อนชชาวไต้หวันนำมาฝากบ้าง จึงทำให้คุณลุงมี ชมพู่ และมะม่วง สายพันธุ์นำเข้าจำมาก และให้ผลผลิตที่สูงมาก 1 ต้นให้ผลผลิตเกือบๆ 100 กิโลกรัมต่อต้นเลยทีเดียว เพราะ 1 ผลนั้นจะมีน้ำหนัก 2-3 กิโลกรัม
ส่วนเรื่องเคล็ดลับในการจำหน่ายผลมะม่วงให้ได้ราคาดีนั้น คุณลุงได้เปิดเผยว่า คนไทยนิยมส่งมะม่วงไปยังตลาด สี่มุมเมือง ซึ่งชาวสวนมมักจะเก็บผลผลิตกึ่งอ่อน เพื่อแม่ค้าที่รับไปจำหน่ายต่อสามารถเก็ยได้นานถึง 7 - 8 วัน แต่ถ้าหากเก็บลูกที่แก่จัดก็จะอยู่ได้เพียง 3-4 วันเพียงเท่านัน ทำให้ตลาดไม่เอา เลยทำให้เกิดปัญหาเรื่องของการจำหน่ายที่มุ่งเน้นไปในเรื่องของปริมาณ แต่ไม่เน้นเรื่องของคุณภาพ ซึ่งเปรียบเสมือนกับการจำหน่ายทุเรียนอ่อน นั่นเอง!
ลุงเล็กยังเปิดเผยอีกด้วยว่าราคาผลผลิตที่ส่งออกไป ประเทศต่างๆ ราคาที่ส่งออกอยู่ที่ 60 บาท/กิโลกรัม ซึ่งมะม่วงที่ส่งออกนั้นจะมีน้ำหนักมากกว่า 1 กิโลกรัม/ผล ถ้าหากเปรียบเทียบกับการขายในไทยแล้วนั้น ราคาจะอยู่ที่ 7 - 8 บาท/กิโลกรัม คุณลุงจึงได้ถามว่า”ต้องจำนวนกี่ลูกถึงจำได้ 1 กิโล” ส่วนเคล็ดลับการส่งออกไปต่างประเทศนั้นไม่ได้ยากเหมือนที่หลายท่านคิด เพียงขอแค่หวานเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว เขารับหมด
เคล็ดลับการประสบความสำเร็จอยู่ที่
- เราต้องเป็นคนตีราคาเอง เพราะเราเป็นคนลงทุน ถ้าหากตีราคาต่ำ ก็ขาดทุน ถ้าขาดททุนก็อย่าไปทนทำเลย ไปทำอย่างอื่นดถอะ
- ถ้าอยากประสบความสำเร็จก็อย่าไปตามใครเขา ให้หา ให้คิด อะไรใหม่ๆ ต่อให้ราคาสูงก็ต้องสู้ อย่าไปหยุด ถ้าเราหยุด เขาก็ตามเราทัน
- แพงก็บอกแพง ถูกก็บอกถูก อย่าหลอกลูกค้าเลย