ไขข้อสงสัย! Wrap สีรถทั้งคันผิดกฎหมายหรือไม่?
เรียกว่า เป็นที่นิยมกันมาอย่างแพร่หลายกันมากๆ ในหมู่ของคนรักรถ กับการ Wrap สีรถยนต์ เปลี่ยนสีกันเลยทีเดียว ซึ่งปัจจุบันสามารถทำได้หลากหลายวิธี ทั้งการพ่นสีใหม่ทั้งคัน หรือการเปลี่ยนสีง่าย ๆ ด้วยวิธี Wrap Car หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Wrap (แรป)
ไขข้อสงสัย! Wrap สีรถทั้งคันผิดกฎหมายหรือไม่?
ก่อนอื่นเลย แนะนำการ Wrap Car คืออะไร
Wrap Car คือการนำฟิล์ม PVC (Polyvinylchloride) มาห่อหุ้มตัวรถ โดยตัวฟิล์มจะมีความยืดหยุ่นได้น้อย ต้องใช้ความร้อนเพื่อให้สามารถยืดตัว มีคุณสมบัติที่ช่วยปกป้องตัวรถจากสะเก็ดหินและรอยขีดข่วน ซึ่งฟิล์มชนิดนี้จะมีให้เลือกหลากแบบหลายสี ทั้งแบบเงา เมทัลลิก แบบด้าน และแบบประกายแสง นอกจากนี้ก็ยังมีแบบกระป๋องสเปรย์ที่เรียกว่า Plasti Dip หรือ Elastic Dip เมื่อฉีดจะกลายเป็นฟิล์มสีเคลือบตัวถัง ที่สามารถลอกออกได้ง่ายโดยที่ไม่ทำลายสีรถแต่อย่างใด
Wrap Car ข้อดี
การ Wrap สีตัวถังนั้นมีข้อดีคือ สามารถเปลี่ยนสีรถได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนสีพื้นเดิม อีกทั้งยังคงเส้นสายของตัวถังไว้อย่างสวยงาม ประกอบกับตัวฟิล์มยังทำหน้าที่ในการป้องกันสิ่งสกปรก รอยขนแมว ขี้นก เกสรดอกไม้ และเมื่อเสื่อมสภาพก็สามารถลอกออกได้
Wrap Car ข้อเสีย
เนื่องจากฟิล์ม PVC จะมีด้วยกันหลายเกรด หลายราคา ซึ่งหากติดฟิล์มราคาถูก ๆ กาวคุณภาพต่ำ ก็สามารถสร้างความเสียหายต่อสีและสารเคลือบตัวถังได้ การติดก็ต้องใช้ฝีมือช่างที่มีประสบการณ์ และมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างสูง ต้องใช้ทักษะในการเก็บรอยให้เรียบเนียนไร้ฟองอากาศ จึงทำให้ราคาการ Wrap สีตัวถังแพงพอ ๆ กับการทำสีใหม่ นอกจากนี้ยังจะมีอายุการใช้งานครั้งละประมาณ 2-3 ปี ซึ่งเมื่อถึงอายุการใช้งาน จะต้องกลับเข้าไปเปลี่ยนและทำการหุ้มใหม่ทั้งคันอีกครั้งหนึ่ง
Car Wrap ผิดกฎหมายไหม
การ Wrap สีรถนั้น ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะ Wrap สีตัวถังทั้งคัน หรือส่วนใดส่วนหนึ่ง แต่สิ่งที่จะต้องทำให้ถูกต้องนั่นก็คือ ไปแจ้งกับกรมขนส่งทางบกภายใน 7 วัน หลังจากที่ไปเปลี่ยนสีรถยนต์ เหตุผลที่ต้องไปแจ้งนายทะเบียนทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนสีตัวถังใหม่ เนื่องจากเป็นการป้องกันการกระทำที่ผิดกฎหมายทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ อาทิ การขับรถเฉี่ยวชน การสวมรอยก่ออาชญากรรม การขนยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย หรือแม้แต่ป้องกันรถถูกขโมย แล้วถูกแปรสภาพเป็นสีอื่น หรือแกะ Wrap ออกจนเป็นสีเดิมจนไม่สามารถแกะรอยได้
แจ้งเปลี่ยนสีรถ ใช้หลักฐานอะไรบ้าง ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่
หลักฐานที่ใช้ในการแจ้งเปลี่ยนสีรถ
ใบคู่มือจดทะเบียนรถ
หลักฐานการเปลี่ยนสีของรถ เช่น ใบเสร็จรับเงินค่าจ้างทำสี เป็นต้น
หลักฐานประจำตัวเจ้าของรถ ได้แก่
- ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน
- ภาพถ่ายสำเนาทะเบียนบ้าน
- หนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
- หนังสือมอบอำนาจ (กรณีไม่สามารถดำเนินการเอง) พร้อมภาพถ่ายบัตรประจำตัวของผู้รับมอบอำนาจ
ขั้นตอนการดำเนินการ
ยื่นคำขอพร้อมหลักฐาน เพื่อขอนำรถเข้ารับการตรวจสอบ
ยื่นตรวจสอบคำขอ พร้อมหลักฐานและผลผ่านการตรวจสอบรถ
ชำระค่าธรรมเนียม
รอรับเอกสารคืน
ค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการแจ้งเปลี่ยนสีรถยนต์
ค่าธรรมเนียมการแจ้งเปลี่ยนสีรถ 50 บาท
ค่าดำเนินการตรวจสภาพรถโดยกรมการขนส่งทางบก 50 บาท
ค่าคำขอ 5 บาท
ซึ่งผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษปรับตั้งแต่ 200-2,000 บาท แต่ก็มีข้อยกเว้นเช่นกัน หากไม่ได้เปลี่ยนสีรถยนต์ทั้งคัน แต่ติดเพื่อเพิ่มลวดลาย อาทิ บริเวณตัวถัง ฝากระโปรงหน้า กันชนหน้า แก้มข้าง หลังคา ฝาท้าย หรือชุดแต่งต่าง ๆ ไม่เกิน 20% ของสีตัวถังเดิม ก็ไม่ต้องแจ้งเปลี่ยนสีกับกรมขนส่งทางบก
ขณะเดียวกันทางกรมการขนส่งทางบก ยังได้กำหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับกำหนดสีรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ดังนี้
กรณีตัวรถมีสีเดียว ให้กำหนดสีที่เป็นสีหลัก โดยไม่ต้องคำนึงถึงความเข้มของสีที่แตกต่างกัน ตามตัวอย่างสีรถที่กำหนดในภาคผนวก ก แนบท้ายระเบียบนี้
กรณีตัวรถมีหลายสี โดยแต่ละสีแตกต่างกันเห็นได้ชัดเจนบริเวณตัวถังส่วนที่สำคัญของรถเช่น ฝากระโปรงหน้า-ท้าย หลังคา หรือประตู เป็นต้น ให้กำหนดสีที่เป็นสีหลักเป็นสีของรถ ไม่เกิน 3 สี แล้วแต่กรณี เช่น ตัวรถมี 2 สีกำหนดเป็นสี ขาว แดง หรือตัวรถมี 3 สี กำหนดเป็นสี ดำ ขาว เหลือง และหากตัวรถมีมากกว่า 3 สี และสามารถกำหนดสีหลักของตัวรถได้ให้กำหนดสีหลัก 3 สี ตามด้วยสีลําดับท้ายสุด "หลายสี" เช่น ขาว แดง หลายสี เว้นแต่กรณีไม่สามารถกำหนดสีใดเป็นสีหลักได้ ให้กำหนดว่า "หลายสี" เพียงอย่างเดียว
กรณีสีคาดหรือแถบคาดที่ใช้ตกแต่งรถ โดยไม่ทําให้สีหลักของรถเปลี่ยนแปลงไป ไม่ต้องกำหนดเป็นสีรถ แต่หากการตกแต่งรถทําให้สีหลักของรถเปลี่ยนแปลงไป ให้กำหนดเป็นสีของรถตามหลักเกณฑ์ ที่กำหนดไว้ในวรรคหนึ่ง Wrap Car
เรียกได้ว่าการ Wrap สีรถ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการเปลี่ยนสีตัวถังใหม่ แต่สิ่งที่ผู้ใช้รถต้องให้ความสำคัญทุกครั้ง ก่อนที่จะตัดสินใจ Wrap สี นั่นก็คือ การหาร้านที่มีมาตรฐาน ช่างที่มีความชำนาญ หรือแม้แต่การเลือกฟิล์มที่มีคุณภาพสูง เพื่อให้คุณได้สีหรือลวดลายที่โดนใจ ติดทนนาน และไม่เกิดปัญหาในระยะยาว ที่สำคัญควรวางแผนเตรียมเวลาในการดำเนินการแจ้งนายทะเบียนที่กรมขนส่งภายใน 7 วันด้วย
ที่มา: dlt.go.th, autotrader.co.uk, holtsauto.com