7 สิ่งในชีวิตประจำวัน ที่คุณทำอยู่แล้วทำให้หน้าแก่เร็วขึ้น

7 สิ่งในชีวิตประจำวัน ทำหน้าแก่ วันนี้เราจะมาเปิดเผย 7 สิ่งที่คุณควรรู้ เพื่อหลีกเลี่ยงและรักษาสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์ไปนานๆ
7 พฤติกรรมทำหน้าแก่ อาจมี พฤติกรรมบางอย่างที่คุณทำจนชิน ในทุกๆ วัน โดยไม่รู้ตัว กำลังเป็นตัวการเร่งให้ผิวคุณ เสื่อมสภาพ และดู แก่ก่อนวัย วันนี้เราจะมาเปิดเผย 7 สิ่งที่คุณควรรู้ เพื่อหลีกเลี่ยงและรักษาสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์ไปนานๆ
7 สิ่งในชีวิตประจำวัน ที่คุณทำอยู่แล้วทำให้หน้าแก่เร็วขึ้น
1. นอนดึก พักผ่อนไม่พอ
การนอนหลับไม่เพียงพอเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวร่วงโรย เพราะร่างกายจะผลิตฮอร์โมนความเครียด (คอร์ติซอล) เพิ่มขึ้น ซึ่งฮอร์โมนนี้จะไปทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวหย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยได้ง่าย นอกจากนี้ ผิวก็จะดูหมองคล้ำ ไม่สดใส การนอนให้ได้อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน จะช่วยให้ผิวได้ฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเองอย่างเต็มที่
2. ไม่ทาครีมกันแดด หรือทาไม่เพียงพอ
แสงแดดคือศัตรูตัวฉกาจของผิวสวย รังสียูวีในแสงแดดทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินอย่างรุนแรง ทำให้เกิด ริ้วรอย ลึก ฝ้า กระ จุดด่างดำ และผิวหย่อนคล้อย การไม่ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน ไม่ว่าจะอยู่ในบ้าน หรือวันฟ้าครึ้ม ก็เท่ากับเปิดโอกาสให้ผิวถูกทำร้ายสะสม ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมงเมื่ออยู่กลางแจ้ง
3. ดื่มน้ำน้อย
ผิวที่ขาดน้ำจะดูแห้งกร้าน ไม่เรียบเนียน และเห็นริ้วรอยชัดเจนขึ้น การดื่มน้ำไม่เพียงพอทำให้เซลล์ผิวขาดความชุ่มชื้น ส่งผลต่อการทำงานของเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูหมองคล้ำและแก่เร็ว ควรดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เปล่งปลั่งจากภายในสู่ภายนอก
4. ความเครียดสะสม
ความเครียดเป็นตัวเร่งให้ร่างกายผลิตอนุมูลอิสระออกมาทำลายเซลล์ผิว ทำให้ผิวแก่เร็วขึ้น นอกจากนี้ ความเครียดยังทำให้เกิดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อบนใบหน้า ทำให้เกิดริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์ซ้ำๆ ได้ง่ายขึ้น การจัดการความเครียด ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย นั่งสมาธิ หรือทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย จะช่วยให้ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ลงได้
5. ติดหน้าจอมากเกินไป
ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน แสงสีฟ้า (Blue Light) ที่ออกมาจากหน้าจอเหล่านี้ สามารถทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวได้เช่นกัน และยังกระตุ้นการเกิดอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวแก่ก่อนวัย นอกจากนี้ การจ้องหน้าจอเป็นเวลานานยังทำให้เกิดริ้วรอยรอบดวงตาและหน้าผากจากการหรี่ตาหรือขมวดคิ้ว ลองพักสายตาเป็นระยะ หรือใช้แว่นกรองแสงสีฟ้าเพื่อปกป้องดวงตาและผิว
6. รับประทานอาหารหวานมากเกินไป
การบริโภคน้ำตาลในปริมาณมากเป็นประจำจะนำไปสู่กระบวนการที่เรียกว่า "Glycation" ซึ่งน้ำตาลจะไปจับกับโปรตีนในร่างกาย รวมถึงคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้เส้นใยเหล่านี้แข็งกระด้างและสูญเสียความยืดหยุ่น ส่งผลให้ผิวเกิดริ้วรอยและหย่อนคล้อยได้ง่ายขึ้น ควรลดปริมาณน้ำตาลในอาหารและเครื่องดื่ม
7. การขัดถูผิวหน้าแรงๆ หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรง
แม้จะหวังดี แต่การทำความสะอาดผิวหน้าอย่างรุนแรง หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ระคายเคือง เช่น สครับที่หยาบเกินไป หรือผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์สูง อาจไปทำลายเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ ทำให้ผิวระคายเคือง แห้ง และเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน และทำความสะอาดผิวอย่างเบามือ
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้เล็กน้อย ก็สามารถช่วยชะลอวัยของผิว และทำให้คุณมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์สดใสได้นานขึ้นครับ! ลองเริ่มปรับเปลี่ยนจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน แล้วคุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น

"ภูมิธรรม" ยัน ผู้นำไทย-กัมพูชา เคลียร์กันแล้ว วอนหยุดวิจารณ์

เปิดภาพ "ปราสาทตาเมือน" หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "ปราสาทบายกรีม"

ทำเกษตรยังไงให้รวย 6 สูตรไม่ลับ เปลี่ยนชาวสวนรุ่นใหม่ให้เป็น CEO

ผบ.ทบ. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังทหารที่ประจำการในพื้นที่
