ยานยนต์

heading-ยานยนต์

ทำไมถึงไม่ควรเปิดฝากระโปรงหน้าหลังจากขับรถทางไกล? 

01 ม.ค. 2566 | 14:01 น.
ทำไมถึงไม่ควรเปิดฝากระโปรงหน้าหลังจากขับรถทางไกล? 

ทำไมถึงไม่ควรเปิดฝากระโปรงหน้าหลังจากขับรถทางไกล เนื่องจากเครื่องยนต์มีการระบายความร้อนด้วยระบบน้ำหล่อเย็น ที่ช่วยรักษาอุณหภูมิเครื่องยนต์ให้เหมาะสมอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว โดยเฉพาะการขับขี่ระยะทางไกลๆ

ทำไมถึงไม่ควรเปิดฝากระโปรงหน้าหลังจากขับรถทางไกล? 

หลายคนคงเข้าใจผิดกันว่า การขับรถเดินทางไกล โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่เเบบนี้ เวลาจอดพักจะนิยมเปิดฝากระโปรงหน้าทิ้งกันไว้ เพื่อระบายความร้อนของเครื่องยนต์ ซึ่งผลลัพธ์ในข้อนี้ถือว่าเป็นเรื่องจริงโดยจะทำให้ความร้อนของเครื่องยนต์ลดลงได้อย่างรวดเร็ว
ทำไมถึงไม่ควรเปิดฝากระโปรงหน้าหลังจากขับรถทางไกล? 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ดีข้อเสีย ของการเปิดฝากระโปรงหน้าเพื่อระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด เนื่องจากเครื่องยนต์มีการระบายความร้อนด้วยระบบน้ำหล่อเย็น ที่ช่วยรักษาอุณหภูมิเครื่องยนต์ให้เหมาะสมอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว โดยเฉพาะการขับขี่ระยะทางไกลๆ จะมีอากาศคอยไหลเวียนเพื่อช่วยระบายความร้อนของเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดี เว้นแต่รถบางคันที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบระบายความร้อน อาจต้องเปิดฝากระโปรงหน้าเพื่อช่วยเร่งระบายความร้อนออกไป

ทำไมถึงไม่ควรเปิดฝากระโปรงหน้าหลังจากขับรถทางไกล? 

บทสรุปคือ การจอดพักรถจึงไม่มีความจำเป็นต้องเปิดฝากระโปรงหน้าเพื่อช่วยระบายความร้อน เนื่องจากไม่มีประโยชน์อันเป็นนัยยะสำคัญในการช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ เพียงแต่อาจช่วยยืดอายุชิ้นส่วนที่เป็นพลาสติกหรือยางได้เล็กน้อยเท่านั้น
 

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

"น้ำยืน" เงียบร้าง หลังถูกประกาศเป็นโซนสีแดง  สั่งอพยพประชาชน

"น้ำยืน" เงียบร้าง หลังถูกประกาศเป็นโซนสีแดง สั่งอพยพประชาชน

บิ๊กป้อม ห่วงใยทหารไทยทุกนาย เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา

บิ๊กป้อม ห่วงใยทหารไทยทุกนาย เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา

อาลัย ทหารกล้าดับเพิ่มอีกนาย มทบ.25 ส่งร่าง 3 วีรบุรุษกลับบ้าน

อาลัย ทหารกล้าดับเพิ่มอีกนาย มทบ.25 ส่งร่าง 3 วีรบุรุษกลับบ้าน

สำรวจสภาพความเสียหาย อ.น้ำยืน หลังเหตุปะทะไทย–กัมพูชา

สำรวจสภาพความเสียหาย อ.น้ำยืน หลังเหตุปะทะไทย–กัมพูชา

"แพทองธาร" โต้ลั่น  "ชินวัตร" ไม่ใช่ต้นตอสู้รบไทย-กัมพูชา

"แพทองธาร" โต้ลั่น "ชินวัตร" ไม่ใช่ต้นตอสู้รบไทย-กัมพูชา