ยานยนต์

heading-ยานยนต์

เผย 3 เหตุผล ที่คุณควรเลี่ยงทำประกันรถยนต์ชั้น 2+

04 พ.ค. 2566 | 13:57 น.
เผย 3 เหตุผล ที่คุณควรเลี่ยงทำประกันรถยนต์ชั้น 2+

เผย 3 เหตุผล ที่คุณควรเลี่ยงทำประกันรถยนต์ชั้น 2+ หลายคนเลือกทำประกันชั้น 2+ โดยไม่พิจารณาถึงความคุ้มครองอย่างรอบคอบเท่าที่ควร

เผย 3 เหตุผล ที่คุณควรเลี่ยงทำประกันรถยนต์ชั้น 2+

 

เผย 3 เหตุผล ที่คุณควรเลี่ยงทำประกันรถยนต์ชั้น 2+

 

ประกัน 2+ คือ อะไร

ประกันชั้น 2+ หรือประกันชั้น 2 บวก คือประกันชั้น 2 ที่เพิ่มความคุ้มครองขึ้นมาใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 ไม่ว่าจะเป็นความคุ้มครองบุคคลภายนอก ความคุ้มครองด้านภัยพิบัติ น้ำท่วม แผ่นดินไหว หรือในกรณี ไฟไหม้ รถยนต์สูญหาย ประกันชั้น 2+ ก็คุ้มครองเช่นเดียวกับประกันรถยนต์ชั้น 1 แต่ขณะเดียวกันก็มีเบี้ยประกันรถยนต์ที่ราคาถูกใกล้เคียงประกันชั้น 2 เราไปดูความแตกต่างและความคุ้มค่า ราคาถูกของประกันชั้น 2+ กัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประกันรถยนต์ 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง

  • ซ่อมเขาซ่อมเรา ในกรณีรถชนรถ
  • ชดเชยเมื่อรถยนต์สูญหาย
  • ชดเชยเมื่อรถยนต์ถูกไฟไหม้ และน้ำท่วม
  • คุ้มครองเช่นเดียวกับประกันชั้น 1 เช่น อุบัติเหตุส่วนบุคคล ค่ารักษาพยาบาล ประกันตัวผู้ขับขี่

ซึ่ง ปัจจุบันบริษัทประกันภัยได้เพิ่มทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเซฟเงินจากประกันชั้น 1 ที่มีค่าเบี้ยประกันสูงสุด มาเป็นประกันชั้น 2+ ที่มีความคุ้มครองใกล้เคียงกัน แต่ค่าเบี้ยประกันถูกกว่ากันมาก ทำให้หลายคนเลือกทำประกันชั้น 2+ โดยไม่พิจารณาถึงความคุ้มครองอย่างรอบคอบเท่าที่ควร กลายเป็นว่าต้องเสียเงินเพิ่มเติมโดยใช่เหตุได้

เผย 3 เหตุผล ที่คุณควรเลี่ยงทำประกันรถยนต์ชั้น 2+

1. ต้องมีคู่กรณีเท่านั้นจึงจะเคลมได้

     กรณีประสบอุบัติเหตุโดยเป็นฝ่ายถูก อันนี้คงไม่มีปัญหาอะไรนัก เพราะคู่กรณีจำเป็นต้องชดใช้ให้เราอยู่แล้ว แต่หากเป็นฝ่ายผิดแล้วล่ะก็ เงื่อนไขประกันชั้น 2+ ระบุว่าคู่กรณีจะต้องเป็นพาหนะที่สามารถจดทะเบียนกับกรมการขนส่งเท่านั้น (เช่น รถยนต์, รถจักรยานยนต์, รถบรรทุก ฯลฯ) จึงจะสามารถเคลมได้

 

 ซึ่งความเป็นจริงแล้วบนท้องถนนมีโอกาสไม่น้อยที่จะประสบอุบัติเหตุกับสิ่งแวดล้อมอื่นๆ เช่น ฟุตบาท, ต้นไม้, เสาไฟฟ้า, อาคารบ้านเรือน ฯลฯ เหล่านี้ประกันชั้น 2 จะไม่ให้ความคุ้มครอง นอกจากจะต้องจ่ายค่าซ่อมรถเองทั้งหมดแล้ว ก็ยังต้องชดใช้ความเสียหายต่อทรัพย์สินภายนอกทั้งหมดเองด้วย (เว้นแต่ความคุ้มครองต่อบุคคลภายนอก ทั้งชีวิต ร่างกายและทรัพย์สิน ค่าเสียหาย ค่ารักษาพยาบาล ยังคงให้ความคุ้มครองตามปกติ อันนี้ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด)

 

2. ถูกชนแล้วหนีอาจเคลมไม่ได้

     กรณีรถถูกชนแล้วหนี ไม่ว่าผู้เอาประกันจะอยู่ในรถขณะเกิดเหตุ หรือจอดรถทิ้งเอาไว้ก็ตาม หากไม่สามารถพิสูจน์ทราบถึงเลขทะเบียนของรถคู่กรณีได้ ก็ไม่สามารถเคลมประกันได้เช่นกัน ดังนั้นการติดกล้องหน้ารถจึงมีความจำเป็นสำหรับรถที่ทำประกันชั้น 2+ เพื่อให้การตรวจสอบคู่กรณีทำได้ง่ายขึ้น

 

3. ทุนประกันภัยต่ำกว่าชั้น 1

     นอกจากความคุ้มครองจะน้อยกว่า ทุนประกันของประกันภัยชั้น 2+ ก็ต่ำกว่าประกันชั้น 1 ด้วยเช่นกัน หากประสบเหตุชนหนัก อาจจะต้องควักกระเป๋าจ่ายส่วนต่างเวลาซ่อมรถ กลับกลายเป็นว่าประหยัดเงินค่าเบี้ยประกันได้หลักพัน แต่ต้องเพิ่มเงินหลักหมื่นเพื่อเป็นส่วนต่างค่าซ่อมรถให้กลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิม

 

ซึ่งหากคุณกำลังลังเลระหว่างประกันชั้น 1 และประกันชั้น 2+ ควรจะพิจารณาถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นตลอดอายุกรมธรรม์ หากรู้ตัวว่าขับรถประสบอุบัติเหตุบ่อย เฉี่ยวนั่นนี่อยู่เป็นประจำ การใช้ประกันชั้น 2+ ก็อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่เหมาะสมนัก แต่หากขับรถปลอดภัยอยู่แล้ว ไม่เคยมีประวัติการเคลม หรือเคลมน้อยมากๆ การเลือกประกันชั้น 2+ ก็จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้

 

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

นางเอกดัง "เบลล่า ราณี"  สุดเศร้า สูญเสียคุณยายอันเป็นที่รัก

นางเอกดัง "เบลล่า ราณี" สุดเศร้า สูญเสียคุณยายอันเป็นที่รัก

"เบิร์ด เทคนิค" สูญเสียครั้งใหญ่ สุดเศร้าโลกนี้ช่างใจร้ายกับผม

"เบิร์ด เทคนิค" สูญเสียครั้งใหญ่ สุดเศร้าโลกนี้ช่างใจร้ายกับผม

ข่าวดี รัฐบาลขยายเวลา "คุณสู้ เราช่วย" ถึงสิ้นเดือนนี้

ข่าวดี รัฐบาลขยายเวลา "คุณสู้ เราช่วย" ถึงสิ้นเดือนนี้

โดนแล้ว "พีช สมิทธิพัฒน์" สารภาพ 3 ข้อหา เผยค่าปรับที่ต้องชดใช้

โดนแล้ว "พีช สมิทธิพัฒน์" สารภาพ 3 ข้อหา เผยค่าปรับที่ต้องชดใช้

รวบ 2 จิ๊กโก๋ รัวปืนกลางงานวัด บาดเจ็บ 3 ราย พบมีคดีติดตัวทั้งคู่

รวบ 2 จิ๊กโก๋ รัวปืนกลางงานวัด บาดเจ็บ 3 ราย พบมีคดีติดตัวทั้งคู่