เผย 5 ปัญหา! แอร์รถยนต์ "เย็นไม่ฉ่ำ" เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง?
อย่างที่ทราบกันดีว่า เมืองไทยอากาศร้อนมากๆ ในช่วงตอนกลางวัน ซึ่งสำหรับใครที่ประสบปัญหาแอร์รถยนต์เย็นไม่ฉ่ำเหมือนตอนซื้อมาสมัยป้ายแดง จนทำให้ไม่มีความสุขในการใช้รถยนต์ของตนเอง เพราะฉะนั้นเราจะเผยปัญหาที่แท้จริง จะมีอะไรบ้างไปชมกันเลย!
เผย 5 ปัญหา! แอร์รถยนต์ "เย็นไม่ฉ่ำ" เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง?
1.น้ำยาแอร์รั่ว - เนื่องจากการทำงานของระบบแอร์เป็นระบบปิด หากว่ามีปัญหาน้ำยาแอร์ไม่เต็มระบบ (น้ำยาแอร์ขาด) มักมีสาเหตุมาจากการรั่วซึมของน้ำยาแอร์ในระบบ ส่งผลให้แอร์มีความเย็นลดลง หรือไม่มีความเย็นออกมาเลย ซึ่งกรณีนี้การเติมน้ำยาแอร์อย่างเดียวไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ หากแต่ช่างจำเป็นต้องหาตำแหน่งที่น้ำยาแอร์รั่วซึมด้วย โดยมากแล้วมักเกิดขึ้นบริเวณคอลย์เย็นภายในตู้แอร์นั่นเอง
2.แผงคอยล์ร้อนระบายความร้อนได้ไม่ดีพอ - หากพบว่ารถมีอาการแอร์ไม่เย็นในขณะติดไฟแดง แต่เมื่อรถวิ่งกลับมีความเย็นตามปกติ มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดจากการระบายความร้อนของแผงคอยล์หน้าเครื่องทำได้ไม่ดีพอ ซึ่งมีสาเหตุหลายอย่าง เช่น พัดลมไม่ทำงาน หรือหมุนช้ากว่าปกติ ก็ต้องไปไล่สาเหตุว่าทำไมพัดลมถึงมีปัญหา หรือกรณีแผงคอยล์ร้อนอุดตันเนื่องจากมีสิ่งสกปรก ก็จำเป็นต้องทำความสะอาดเพื่อให้กลับมามีประสิทธิภาพดังเดิม เป็นต้น
3.คอมเพรสเซอร์ไม่มีกำลังอัด - กรณีรถยนต์ใช้งานมานาน และยังไม่เคยเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์เลย อาจเป็นไปได้ว่าลูกสูบภายในคอมเพรสเซอร์หลวม ทำให้แรงดันของน้ำยาแอร์ที่ออกมาจากคอมเพรสเซอร์มีน้อย ทำให้ระบบแอร์ไม่เย็นฉ่ำ หรือเย็นบ้างไม่เย็นบ้าง โดยอาการที่พบได้บ่อย คือ หากจอดรถนิ่งๆ แอร์จะเย็นไม่ฉ่ำ แต่หากเร่งเครื่องยนต์ (โดยที่รถยังอยู่กับที่) แอร์จะกลับมาเย็นอีกครั้ง แบบนี้ให้สันนิษฐานเลยว่าอาจมีปัญหาที่คอมเพรสเซอร์
4.ชุดวาวล์และดรายเออร์อุดตัน - วาล์วมีหน้าที่ฉีดน้ำยาแอร์เข้าไปยังตู้แอร์ ส่วนดรายเออร์จะทำหน้าที่กรองสิ่งสกปรกออกจากน้ำยาแอร์ หากมีอาการอุดตันจะทำให้แรงดันน้ำยาแอร์ที่ออกจากคอมเพรสเซอร์ไหลผ่านเข้าคอยล์เย็นได้ไม่สะดวก ทำให้แอร์รถเย็นไม่ฉ่ำเท่าที่ควร
5.สายพานคอมเพรสเซอร์หย่อน - คอมเพรสเซอร์แอร์รถยนต์จำเป็นต้องได้กำลังส่วนหนึ่งจากเครื่องยนต์ผ่านทางสายพาน หากสายพานเกิดการเสื่อมสภาพหรือหย่อนเกินไป คอมเพรสเซอร์ก็จะไม่สามารถหมุนได้อย่างเต็มที่ เป็นสาเหตุทำให้แอร์รถเย็นไม่พอได้เช่นกัน
การบำรุงรักษา
1. ตรวจสอบระบบแอร์ทุกๆ 5,000 กิโลเมตร หรือ ทุกๆ 3 เดือน
2. เติมน้ำยาแอร์ให้ถูกต้องและอยู่ในระดับตามที่คู่มือกำหนด
3. ทำความสะอาดแผงกรองแอร์
4. ตรวจสอบสายพานคอมแอร์ว่าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์หรือเสื่อมสภาพหรือไม่
5. ควรล้างตู้แอร์เป็นประจำทุกๆ 2 ปี
การดูแลแอร์รถยนต์ ให้เย็นฉ่ำไปนานๆ แยกเป็น 2 ส่วน คือ การใช้งาน และการบำรุงรักษา ดังต่อไปนี้
การใช้งาน
1. เปิดแอร์ก่อนสตาร์ทรถ ป้องกันคอมแอร์ฉุดกำลังการสตาร์ท
2. หลังจากจอดรถตากแดด แนะนำให้เปิดประตูระบายความร้อนก่อน
3. เปิดแอร์เบอร์แรงก่อนการกดปุ่มน้ำยาแอร์ เพื่อไล่ความร้อนออกจากระบบแอร์ และเพื่อไม่ให้แอร์ทำงานหนักเกินไป
4. ถ้าภายในห้องโดยสารเริ่มเย็นให้ลดความเร็วพัดลมอยู่ที่ความเร็วเท่าที่จำเป็น
5. ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม หากปรับมากหรือน้อยไปจะทำให้แอร์ทำงานหนัก
6. 5-10 นาทีก่อนถึงที่หมายให้ปิดปุ่มน้ำยาแอร์ และเปิดพัดลมเบอร์แรงช่วยไล่ความเย็น และความชื้น และช่วยลดกลิ่นอับ
7. เปิดพัดลมแอร์ก่อนดับเครื่อง
8. ห้ามเปิดกระจกขับรถบ่อยๆ เพราะฝุ่นและสิ่งสกปรกจากข้างนอกอาจจะเข้ามาติดในแอร์ได้
9. การติดฟิล์มรถยนต์ก็ช่วยทำให้ระบบแอร์ไม่ต้องทำงานหนักมากไปได้