ไขข้อสงสัย! รถยนต์ยังค้างไฟแนนซ์อยู่เยอะ สามารถเทิร์นรถคันใหม่ได้ไหม!
เมื่อขับรถคันเดิมมานานๆ ก็อยากจะเทิร์นรถเก่า แล้วซื้อรถยนต์ใหม่ เเต่ติดปัญหาอยู่ที่ว่ายังมียอดค้างไฟแนนซ์อยู่เยอะ เหลือค่างวดอีกหลายปี แบบนี้จะสามารถเทิร์นเพื่อเปลี่ยนเป็นคันใหม่ได้หรือไม่? วันนี้เรามีคำตอบครับ!
ไขข้อสงสัย! รถยนต์ยังค้างไฟแนนซ์อยู่เยอะ สามารถเทิร์นรถคันใหม่ได้ไหม!
การเทิร์นรถคืออะไร
การเทิร์นรถ คือ การขายรถคันปัจจุบันให้กับดีลเลอร์ (เต็นท์รถ พ่อค้าคนกลาง บุคคลทั่วไป) เพื่อไปแลกรถใหม่ หรือซื้อรถคันใหม่
โดยปกติดีลเลอร์มักจะตีราคาด้วยตัวเอง ซึ่งมักจะต่ำกว่าราคาขายของรถ ซึ่งเงินจำนวนนี้จะถูกนำไปใช้เป็นเครดิตสำหรับซื้อรถคันใหม่ด้วย
อย่างไรก็ตาม การนำรถไปเทิร์นมักจะสะดวกกว่าการขายรถด้วยตัวเอง เพราะผู้ขายรถคันใหม่ให้กับเรามักจะอำนวยความสะดวกให้เกือบทุกขั้นตอน
เทิร์นรถยังผ่อนไม่หมดได้ไหม
รถผ่อนไม่หมดเทิร์นได้ไหม ? คำตอบคือ เทิร์นได้ แม้เราจะเป็นเพียงผู้เช่าซื้อ ซึ่งเจ้าของรถตัวจริงคือไฟแนนซ์ แต่ก่อนจะเทิร์นรถควรเช็กยอดหนี้คงเหลือกับไฟแนนซ์ก่อน เพื่อที่จะได้เลือกวิธีขายได้อย่างเหมาะสม ว่าควรขายเงินสด ขายดาวน์เปลี่ยนสัญญาผ่อนนต่อ หรือเปลี่ยนสัญญาให้ผู้เช่าซื้อคนใหม่ไปผ่อนต่อเองโดยไม่ต้องดาวน์
หากตั้งราคาขายสูงกว่ายอดหนี้คงเหลือ อาจจะขายดาวน์โดยให้ผู้ซื้อจ่ายเงินสดเต็มจำนวนหรือเปลี่ยนสัญญาให้เขาไปผ่อนต่อกับไฟแนนซ์เองก็ได้ โดยเงินส่วนเกินหลังจากปิดยอดไฟแนนซ์จะเป็นของเรา
หากตั้งราคาขายต่ำกว่ายอดหนี้คงเหลือ สามารถขายเงินสดโดยที่เราเพิ่มเงินส่วนต่างเองเพื่อปิดยอดหนี้ให้หมด หรือจะเปลี่ยนสัญญาให้ว่าที่เจ้าของรถคนใหม่ไปผ่อนต่อก็ได้ หรือเขาเรียกว่า "ยกรถให้ไปผ่อนต่อฟรี ๆ"
ขายรถติดไฟแนนซ์สามารถทำได้ แต่ต้องมีวิธีการ
การขายรถทั้งที่ยังติดไฟแนนซ์อยู่สามารถทำได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพียงแต่จะมีวิธีการแตกต่างไปจากการขายรถที่ปลอดภาระแล้วสักเล็กน้อย
ก่อนอื่นแนะนำว่าให้โทรเข้าไปยัง Call Center ของไฟแนนซ์ที่ใช้บริการอยู่เพื่อสอบถามยอดปิดบัญชีทั้งหมด โดยการปิดบัญชีล่วงหน้าจะได้รับส่วนลดดอกเบี้ยตามสัดส่วนขึ้นอยู่กับระยะเวลาการผ่อนชำระที่ผ่านมา เมื่อได้ยอดปิดบัญชีแล้วก็จะสามารถเลือกวิธีการขายต่อได้อย่างเหมาะสม ไม่ขาดทุนมากจนเกินไป
ทั้งนี้ ไฟแนนซ์บางแห่งกำหนดว่าผู้เช่าซื้อจะต้องชำระค่างวดมากกว่า 12 เดือน หรือ 1 ปีเสียก่อน จึงจะสามารถปิดบัญชีได้
3 วิธีขายรถที่ยังติดไฟแนนซ์
หลังจากที่ทราบยอดปิดบัญชีแล้ว คุณสามารถเลือกวิธีการที่เหมาะสมในการขายต่อได้ 3 วิธี ดังนี้
1. เทิร์นกับโชว์รูมหรือเต๊นท์โดยตรง
วิธีนี้เป็นวิธีที่สะดวกที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะโดยคุณสามารถนำรถไปเทิร์นกับโชว์รูมหรือเต๊นท์ที่ต้องการซื้อคันใหม่ได้โดยตรง พร้อมทั้งเจรจาต่อรองว่าต้องเพิ่มส่วนต่างเท่าไหร่เพื่อเปลี่ยนเป็นรถคันใหม่ หากคุณรับข้อเสนอได้ ทางโชว์รูมหรือเต๊นท์ก็จะดำเนินการปิดบัญชีรถคันเดิมให้ แต่โดยมากแล้ววิธีนี้จะค่อนข้างเสียเปรียบ เนื่องจากจะถูกกดราคาโดยโชว์รูมหรือเต๊นท์ ทำให้ราคาขายไม่เป็นไปอย่างที่ตั้งใจไว้
2. เปลี่ยนสัญญา - ขายดาวน์ - ยกให้ผ่อนต่อฟรี
อีกหนึ่งวิธีที่นิยมใช้ในปัจจุบัน คือ การเปลี่ยนสัญญาเพื่อให้ผู้อื่นนำรถไปผ่อนต่อ โดยหากภาระหนี้คงเหลือต่ำกว่าราคาตลาด ณ ขณะนั้น แนะนำว่าให้ใช้วิธีขายดาวน์เพื่อให้ได้มาซึ่งส่วนต่างตามราคาตลาด ยกตัวอย่างเช่น หากราคาตลาดของรถรุ่นนั้นอยู่ที่ 450,000 บาท แต่มีภาระหนี้คงเหลือรวมแล้วเหลือ 300,000 บาท ก็สามารถเรียกส่วนต่างประมาณ 150,000 บาทเพื่อเป็นเงินดาวน์จากผู้ซื้อได้
แต่หากภาระหนี้คงเหลือเท่ากับหรือมากกว่าราคาตลาด จำเป็นต้องใช้วิธีเปลี่ยนสัญญาเพื่อให้ผู้ซื้อไปชำระค่างวดที่เหลือโดยไม่ได้ส่วนต่างกลับมา พูดง่ายๆ คือ เปลี่ยนสัญญายกรถให้ผู้ซื้อไปดำเนินการผ่อนต่อแบบฟรีๆ นั่นเอง เมื่อภาระหนี้ก้อนนี้จบไป ก็สามารถเปลี่ยนไปซื้อคันใหม่ได้แล้ว
3. ขายเงินสด
วิธีนี้มีลักษณะคล้ายกับการเปลี่ยนสัญญา เพียงแต่ถ้าผู้ซื้อมีความพร้อมในการจ่ายเงินสดทั้งก้อนก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยผู้ขายจำเป็นต้องติดต่อกับไฟแนนซ์เพื่อแจ้งความประสงค์ในการขายพร้อมกับการปิดบัญชี จากนั้นทำสัญญาซื้อขายให้เรียบร้อย และปฏิบัติตามคำแนะนำของไฟแนนซ์ต่อไป
โดยขั้นตอนต่อไปนี้จะช่วยเพิ่มความสบายใจกับทางฝ่ายผู้ซื้อ เพราะทางผู้ซื้อเองก็มั่นใจได้ว่ามีการปิดบัญชีสินเชื่อจริง จะได้ไม่เกิดปัญหาทางผู้ซื้อเองก็มั่นใจได้ว่าปิดบัญชีจริง ซึ่งทางเราจะไม่เเนะนำให้ปล่อยให้ผู้ขายไปดำเนินการปิดบัญชเองภายหลังเด็ดขาด เพราะว่าอาจจะเกิดปัญหาตามมาขึ้นได้