ใช้รถต้องรู้! อันตราย!! หาก จับพวงมาลัย “หงายมือ”

ใช้รถต้องรู้! อันตราย!! หาก จับพวงมาลัย “หงายมือ” 

การหงายมือ คือ การจับพวงมาลัยผิดวิธี  

แม้ว่าการหมุนพวงมาลัยด้วยการหงายมือจะเป็นท่าทางที่หลายคนถนัด แต่อันที่จริงแล้วเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาด ด้วยเหตุผล 2 ประการ ดังต่อไปนี้

 1. ทำให้องศาการหมุนพวงมาลัยเป็นไปอย่างจำกัด เพราะแม้ว่าการหงายมือหมุนพวงมาลัยไปในทิศทางที่ต้องการจะทำได้ถนัดก็จริง แต่กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินที่ต้องดึงพวงมาลัยกลับไปยังทิศทางตรงกันข้าม จะไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากมือและแขนจะอยู่ในท่าทางที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการหมุนพวงมาลัยกลับ ต้องอาศัยการสลับมืออีกข้างเข้ามาช่วยแทน

  2. แขนอาจได้รับอันตรายจากถุงลมนิรภัย เนื่องจากการหงายมือสอดเข้าไปยังพวงมาลัย จะทำให้ช่วงปลายแขนอยู่ในตำแหน่งตรงกับถุงลมนิรภัยพอดี หากว่ามีการชนปะทะเกิดขึ้น การพองตัวออกอย่างรุนแรงของถุงลมนิรภัยอาจทำให้ผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บได้

 

โดยการจับพวงมาลัยที่ถูกต้องนั้นคือ 

1. ปรับที่นั่งให้เหมาะสม
     เริ่มต้นกันที่การปรับที่นั่งในการขับขี่ที่เหมาะสม เราควรปรับเบาะรถยนต์ให้มีระยะห่างจากพวงมาลัยรถ1 ช่วงแขนพอดี โดยแขนจะต้องไม่ตึงหรือหย่อนจนเกินไป ซึ่งจะทำให้เราบังคับทิศทางของพวงมาลัยรถได้อย่างคล่องตัวทะมัดทะแมงมากขึ้น

2. จับพวงมาลัยด้วยมือทั้งสองข้าง
     โดยให้เรานึกภาพว่าพวงมาลัยรถเหมือหน้าแดของนาฬิกา ให้มือฝั่งซ้ายจับพวงมาลัยในตำแหน่ง 9 นาฬิกา ส่วนมือขวาจับพวงมาลัยในตำแหน่ง 3 นาฬิกา เนื่องจากบริเวณทั้งสองนี้เป็นตำแหน่งตรงกลางของวงพวงมาลัยจะทำให้ควบคุมรถได้ดีที่สุด อีกทั้งยังช่วยเปิดไฟเลี้ยวได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

3. ไม่จับพวงมาลัยแน่นจนเกินไป
     ไม่ควรจับพวงมาลัยแน่นจนเกินไป ให้จับประคองหลวมๆด้วยมือสองข้างก็พอ เพราะการกำหรือจับพวงมาลัยที่แน่นไปอาจทำมือเกิดอาการเกร็งหรือปวดเมื่อยขณะที่ขับรถได้ แต่ในกรณีที่ต้องขับรถขณะฝนตก หรือ ขับรถขึ้นลงเขา ให้เพิ่มน้ำหนักในการจับพวงมาลัยขึ้นเล็กน้อย เพื่อช่วยในการบังคับรถให้ดีขึ้นและปลอดภัย

4. ไม่ควรจับพวงมาลัยมือเดียว
     อย่างที่พี่หมีได้บอกไปเราควรจับพวงมาลัยด้วยมือทั้งสองข้าง การจับพวงมาลัยข้างเดียวนั้นถือว่าเสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ เช่นหากคุณขับรถตกหลุม หรือ มีสัตว์วิ่งตัดหน้ารถ อาจทำให้รถเสียการควบคุมได้

ซึ่งทาง Carfreedom แนะนำว่าหากผู้ขับขี่สามารถปฏิบัติได้ตามข้อแนะนำข้างต้น ดังต่อไปนี้ ก็จะสามารถช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างเเน่นอนครับ!