ดอกฮิกันบานะ ความหมายแต่ละสี มีอะไรบ้าง
ดอกฮิกันบานะ ดอกไม้แห่งความตาย แต่สีมีความหมายต่างกันอย่างไร และทำไมคนญี่ปุ่นถึงกลัวดอกไม้ชนิดนี้ ไปทำความรู้จักพร้อมๆ กันค่ะ
ดอกฮิกันบานะ วันนี้ทีมข่าว Thainews Online ขอพาสายมูบินลัดฟ้าไปทำความรู้จัก ดอกไม้ชนิดหนึ่ง มีสีสันที่สวยงามสดใส อยู่ในประเทศญี่ปุ่น แต่ว่านั่น กลับเป็น ดอกไม้แห่งความตาย นั่นคือ ดอกฮิกันบานะ ความหมายแต่ละสี มีอะไรบ้าง และทำไมคนญี่ปุ่นถึงกลัวดอกไม้ชนิดนี้ ไปทำความรู้จักพร้อมๆ กันค่ะ
ดอกฮิกันบานะ เป็นดอกไม้สีแดงของประเทศญี่ปุ่น จัดเป็นไม้ยืนต้นตระกูลดอกลิลลี่ ดอกไม้ชนิดนี้คนไทยเรียกว่า พลับพลึงสีแดง หรือ พลับพลึงแม่งมุม และที่มาของชื่อ ฮิกันบานะ นั้นมาจากดอกไม้ชนิดนี้จะบานในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เรียกว่า วันวสันตวิษุวัต และ วันศารทวิษุวัต เป็นวันที่มีการเฉลิมฉลองวันหยุดยาวทางศาสนาพุทธของชาวญี่ปุ่นเป็นเวลา 7 วัน หรือที่เรียกกันว่า ฮิกัน นั่นเองค่ะ
ดอกฮิกันบานะ ในประเทศญี่ปุ่นที่นับถือศาสนาพุทธถือว่าดอกไม้ชนิดนี้เป็นดอกไม้แห่งสวรรค์ เพราะมีความเชื่อกันว่า หากมีเรื่องที่น่ายินดีหรือเป็นเรื่องมงคลเกิดขึ้น ดอกไม้สีแดง นี้ก็จะโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองนั่นเองค่ะ
ดอกฮิกันบานะ ในประเทศญี่ปุ่นมีอีกชื่อหนึ่งก็คือ ดอกไม้คนตาย แต่อย่างไรก็ตามดอกไม้ชนิดนี้ในประเทศญี่ปุ่นก็ยังมีชื่อเรียกอื่นๆ อีกที่น่ากลัวหรือสื่อไปในทางที่ไม่ดีอยู่เหมือนกันค่ะ เช่น ชิบิโตะบานะ (ดอกไม้คนตาย), จิโกคุบานะ (ดอกไม้นรก), ยูเรบานะ (ดอกไม้วิญญาณ), คิทสึเนะบานะ (ดอกไม้จิ้งจอก), สุเตโกะบานะ (ดอกไม้เด็กกำพร้า), คามิโซริบานะ (ดอกใบมีดโกน) เป็นต้น
ดอกฮิกันบานะ ความหมายแต่ละสี มีอะไรบ้าง
- ดอกฮิกันบานะสีแดง หมายถึง อิสรภาพ ความคลั่งไคล้ การกลับมาพบกันใหม่ หรือฉันคิดถึงแค่คุณเท่านั้น
- ดอกฮิกันบานะสีขาว หมายถึง ฉันปรารถนาเพียงคุณคนเดียวเท่านั้น หรือฉันเฝ้ารอวันที่จะกลับมาพบกันอีกครั้ง
- ดอกฮิกันบานะสีเหลือง หมายถึง น้ำใจที่ลึกซึ้ง หรือการคิดถึงความหลัง