สังคม
เปิดใจหนุ่มไทย ทำยังไงถึงปล่อยการ์ดโปเกมอนประมูลได้ถึง 14.4 ล้าน
กลายเป็นเรื่องที่ฮือฮาอย่างมากในโลกออนไลน์ เมื่อชาวเน็ตแห่แชร์ประสบการณ์ขายการ์ดโปเกมอนของหนุ่มไทยในอเมริกาเจ้าของเฟซบุ๊ก Krit Nu Kaewsuwan ซึ่งเล่าได้โพสต์ข้อความจบการประมูลการ์ดโปเกมอนที่แพงที่สุดในชีวิตของตัวเองที่ได้ปล่อยขายในราคากว่า 14.4 ล้านบาทว่า
"จบประมูลเป็นที่เรียบร้อยครับสำหรับการ์ด Pokémon topsun charizard 1/1 ของผมในราคา $481,200 คิดเป็นเงินไทย14,436,000บาทเป็นการ์ดที่แพงที่สุดในชีวิตผมเลยครับ World records ขอบคุณทุกๆ คนที่เข้ามาช่วยลุ้นช่วยเชียร์นะครับ.. ThankGod Miracle of God" ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวถือว่าว้าวมากในการขายการ์ดเพียงใบเดียว
นอกจากนี้ นายกฤช แก้วสุวรรณ หรือ นุ อายุ 30 ปี อดีตเจ้าของการ์ดโปเกมอนดังกล่าว ได้เล่าว่า ไม่คิดว่าการ์ดที่นำไปประมูลนั้นจะมีราคาสูงขนาดนี้ ซึ่งสาเหตุที่ตัดสินใจขายเพราะช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา การ์ดโปเกมอนเริ่มบูมขึ้นเพราะมีคนดังหลายคนเริ่มมาสนใจ ทำให้เริ่มมีคนออกมาประมูลกันมากในช่วงนี้
โดยการ์ดที่นำมาประมูลใบนี้ ตนซื้อมาจากเจ้าของเดิมเมื่อปีที่แล้ว เป็นการ์ดเก่าที่มีอายุ 25 ปี ในราคาประมาณหลักหมื่นถึงแสนบาท ซึ่งคาดว่าทางเจ้าของเดิมก็คงได้กำไรแล้วถึงขาย ก่อนที่จะไปประมูล ก็ได้ส่งให้บริษัทประเมินคะแนนก่อน เนื่องจากการสะสมการ์ดแบบนี้จะมีการประเมินคะแนน สูงสุดที่เกรด 10 ซึ่งจะพิจารณาจากความสมบูรณ์ของการ์ด
และหลังจากที่ประเมินเสร็จตนเองก็ตกใจมากเพราะการ์ดใบนี้ได้คะแนนสูงสุดคือเกรด 10 ซึ่งเป็นใบแรกในรอบ 25 ปี ของการ์ดโปเกมอน จนสุดท้ายตัดสินใจประมูลในที่สุด ซึ่งเป็นราคาที่สูงสุดที่สุดในขณะนี้สำหรับการซื้อขายการ์ดโปเกมอนในราคา 481,200 ดอลลาร์ จากสถิติเก่า 375,000 ดอลลาร์
ทั้งนี้ นายกฤช เล่าต่ออีกว่า ตนเองเริ่มเข้าวงการสปอร์ตการ์ดมาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว หลังจากมาเรียนที่อเมริกา เพราะเห็นว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า การ์ดใบแรกที่ซื้อมาจากกล่องสปอร์ตการ์ด ขายได้ 60 ดอลลาร์ หลังจากนั้นก็เริ่มศึกษาสปอร์ตการ์ด อย่างเต็มตัวว่าสามารถทำเงินได้ไหม ใช้เวลา 1 ปีเรียนรู้ทุกอย่างจากอินเทอร์เน็ต หลังจากนั้นเริ่มมีคอนเน็กชั่นในวงการ sportcards ได้มีโอกาสซื้อขายกับ Steve aoki นักร้องชื่อดัง หรือคนดังๆ ในวงการสปอร์ตการ์ด เช่น Gary vee ตอนนี้ถือว่าตนเองก็เป็นที่รู้จักในวงการ sportcards มากขึ้น
ปัจจุบันการ์ดที่มีอยู่ก็เริ่มทยอยขายออกไปเรื่อย ๆ และไม่สามารถบอกได้ว่าการ์ดใบไหนที่จะมีราคาสูงบ้าง เพราะขึ้นอยู่กับจังหวะ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็สามารถขายสปอร์ตการ์ดไปในราคา 1,00,000 บาท และคิดว่าจะทำต่อไป เนื่องจากมองว่าเป็นเหมือนการลงทุนรูปแบบใหม่ ซึ่งทุกคนสามารถทำได้ทางการซื้อขายออนไลน์
อย่างไรก็ตาม สำหรับเงินที่ได้ล่าสุด คาดว่าจะนำไปเลี้ยงเด็กทั่วไป เพราะปัจจุบันตนสนับสนุนเงินเป็นรายเดือนให้เด็กจำนวน 10 คนอยู่แล้ว และส่วนหนึ่งก็จะแบ่งให้ครอบครัว
ข่าวล่าสุด
ตะลึง กู้ภัยล้มฟุบตะโกนช่วยด้วย กลางพิธีโต๊ะจีนเหยื่อตึกถล่ม
เหยื่อปูนตกใส่รถดับ ถนนพระราม 2 ญาติสงสัย รพ.ส่อให้เลือดผิดกรุ๊ป
เปิดนาที กู้ภัยถูกวิญญาณในตึก สตง.สิงร่าง ร้องหิวขอข้าวน่าเวทนา
ดาวใหญ่ย้าย เปิดดวง 12 ราศี ชีวิตพลิก เงินทองมีใช้ไม่เดือดร้อน
