ครูปรีชาแจ้งความกลับ ลุงจรูญกลั่นแกล้งให้ได้รับโทษหลังตกเป็นจำเลย

จากกรณีทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เปิดเผยผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 ว่า ศาลจังหวัดกาญจนบุรีชั้นไต่สวนมูลฟ้อง เห็นว่าคดีที่ครูปรีชาและทนายวรยุทธ ถูกยื่นฟ้องโดยลุงจรูญ หรือ ร.ต.ท.จรูญ วิมูลในคดีร่วมกันฟ้องเท็จนั้นมีมูล และได้นัดพร้อมตรวจพยานหลักฐานวันที่ 22 มี.ค. 2564 นี้

โดยทนายตั้มได้โพสต์ไว้ว่า "ครูปรีชาและทนายวรยุทธ ตกเป็นจำเลยคดีร่วมกันฟ้องเท็จทั้งคู่ โดยศาลจังหวัดกาญจนบุรี อ่านคำสั่งคดีที่ลุงจรูญฟ้อง ครูปรีชาและทนายวรยุทธ ในความผิดฐานร่วมกันนำความเท็จมาฟ้องลุงจรูญต่อศาลในเรื่องที่กล่าวหาว่าลุงจรูญยักยอกหรือรับของโจรหวย 30 ล้าน ศาลพิเคราะห์หลักฐานชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วเห็นว่า คดีมีมูล 

แม้ในคดีหลักครูปรีชาจะยังขยายฎีกา ทำให้คดียังไม่ถึงที่สุด แต่ความผิดฐานร่วมกันฟ้องเท็จความผิดเกิดตั้งแต่วันยื่นฟ้อง ไม่จำเป็นต้องรอคดีหลักแต่อย่างใด ศาลนัดพร้อมตรวจพยานหลักฐานวันที่ 22 มีนาคม 2564"

ล่าสุดมีรายงาน เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2564 ครูปรีชา หรือ นายปรีชา ใคร่ครวญ ได้เดินทางเข้าพบร.ต.ท.วิศรุต พจน์มนต์ปิติ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับลุงจรูญ ในกรณียื่นฟ้องตนจนตกเป็นจำเลยคดีร่วมกันฟ้องเท็จ โดยแจ้งความในข้อหากลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญาและจดแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ

ครูปรีชาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าตอนนี้พนักงานสอบสวนรับแจ้งความไว้เรียบร้อยแล้ว และนัดสอบปากคำตนในวันที่ 5 ก.พ. 2564 จากนั้นจะนัดหมวดจรูญมารับทราบข้อกล่าวหาและสอบปากคำต่อไป

นอกจากนี้ครูปรีชาได้กล่าวทิ้งท้ายด้วยประโยคประจำตัวที่้ยืนยันมาตลอดว่า "ความจริงก็คือความจริง หวยเป็นของครู และไม่ใช่ของลุงจรูญอย่างแน่นอน"