บลูมเบิร์ก ชี้ชัด โควิด-19 อาจเป็นโรคระบาดที่จะอยู่คู่โลกต่อไปอีก 7ปี

โครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชน ได้เริ่มขึ้นแล้วในหลายประเทศทั่วโลก แต่การฉีดวัคซีนในหลายพื้นที่ยังเป็นไปอย่าล่าช้า
วันนี้ (08/02/2564) สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า โครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชน ได้เริ่มขึ้นแล้วในหลายประเทศทั่วโลก แต่การฉีดวัคซีนในหลายพื้นที่ยังเป็นไปอย่าล่าช้าไม่ทันการณ์และไม่มีการวางแผนที่ดีนัก ทำให้เมื่อพิจารณาจากอัตราความเร็วในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนเป็นวงกว้างแล้ว มีความเป็นไปได้ว่า โรคระบาดโควิด-19 จะยังคงมีอยู่คู่กับโลกของเราไปอีกราว 7 ปี
นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าในช่วง 10 ปีนับจากนี้ โลกยังคงต้องรับมือกับโควิด-19 ด้วย การฉีดวัคซีนป้องกันโรค คนละ 2 โดส เพื่อก่อให้เกิดการสร้าง ภูมิคุ้มกันหมู่ (herd immunity) ซึ่งเป็นการที่ประชากรส่วนมากของชุมชนหรือสังคม มีภูมิคุ้มกันโรคเกิดขึ้นในสัดส่วนจำนวนคนที่มากเพียงพอที่จะทำให้ไม่เกิดการติดเชื้อจำนวนมากอีกต่อไป ถือเป็นการช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ซึ่ง “ภูมิคุ้มกันหมู่” ดังกล่าว อาจเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเมื่อหายจากโรค หรือเกิดจากการได้รับวัคซีนนั่นเอง
จากข้อมูลของบลูมเบิร์กพบว่า ประเทศที่ร่ำรวยและประเทศในซีกโลกตะวันตกจำนวนมาก สามารถฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนในระดับมวลชนได้ราว ๆ 75% ของประชากรแล้ว แต่ประเทศยากจนและประเทศกำลังพัฒนา ยังคงตามหลังอย่างห่าง
บางประเทศ เช่น อิสราเอล ซึ่งเริ่มโครงการฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้เร็ว คาดว่าจะฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนได้ราว 75% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ แต่สำหรับโปรตุเกส อาจต้องบใช้เวลาอีก 4 ปีกว่าจะไปได้ถึงระดับนั้น ขณะที่จีน ซึ่งมีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลก คาดว่าอาจต้องใช้เวลา 7 ปีจึงจะสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ส่วนแคนาดา ซึ่งเป็นประเทศที่จองซื้อวัคซีนได้เร็วที่สุดและมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก กลับกลายเป็นว่าอาจจะต้องใช้เวลาอีกเกือบ 10 ปี จึงจะสามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้ครอบคลุม 75% ของประชากร ซึ่งที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะปัญหาความล่าช้าในการกระจายวัคซีน ดังนั้นหากประเทศต่าง ๆ ปรับปรุงการกระจายวัคซีนออกไปให้ทั่วถึงและรวดเร็วมากขึ้น ระยะเวลาที่คาดว่าจะต้องใช้ในการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ก็จะกระชับสั้นลง
ในส่วนของการผลิตวัคซีนก็เพิ่งอยู่ในระยะเริ่มต้น นอกจากนี้ ในบรรดาประเทศต่าง ๆทั้งหมดทั่วโลก มีเพียง 1 ใน 3 เท่านั้นที่มีโครงการฉีดวัคซีนฟรีให้ประชาชน รายงานของบลูมเบิร์กคาดหวังว่า การคำนวณและประมาณการณ์ในรายงานชิ้นนี้ตั้งอยู่บนข้อมูลพื้นฐานที่ว่า วัคซีนจะสามารถป้องกันโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อแต่ละคนได้รับการฉีดวัคซีน 2 เข็ม หรือ 2 โดส แต่หากในอนาคต มีบริษัทผู้ผลิตวัคซีนอย่างจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ที่กำลังคิดค้นวัคซีนต้านโควิดที่มีประสิทธิภาพด้วยการฉีดเพียงเข็มเดียว หรือโดสเดียว ออกมาอีก นั่นก็จะยิ่งช่วยให้โลกสามารถบรรลุเป้าหมายการสร้างภูมิคุมกันหมู่ในเวลาสั้นลง
ขอบคุณข้อมูลจากฐานเศรษฐกิจ