รวบ สจ.เก๊ ตุ๋นแสบนักธุรกิจฮั้วโครงการ 400 ล้าน อ้างเป็นที่ปรึกษารมต.
ตร. ร่วมกันจับกุม นายชยธร (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงดุสิต ที่ จ.300/2563 ลงวันที่ 15 ธันวาคม 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”
กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการสั่งการ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป.,พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.ณัทกฤช น้อยคำปัน, พ.ต.ท.ปวิช ข่าทิพย์พาที, พ.ต.ท.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น, พ.ต.ท.ภูวนนท์ สมัครไทย รอง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ต.สุขสิทธิ์ ประเสริฐ สว.กก.5 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ได้ร่วมกันจับกุม นายชยธร (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงดุสิต ที่ จ.300/2563 ลงวันที่ 15 ธันวาคม 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง” สืบเนื่องมาจากเมื่อประมาณเดือนมีนาคม - เมษายน 2563
ผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากนายชยธรฯ ซึ่งอ้างตัวเป็น สจ.เอ แนะนำตัวเองว่าเป็นคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแห่งหนึ่ง โดยแจ้งว่าได้งานโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง มูลค่า 400 ล้านบาท จึงทำทีมาติดต่อกับทางบริษัทฯของผู้เสียหายให้เข้าไปดำเนินการ โดยทางผู้ต้องหาเรียกเงินค่าหัวคิวจำนวน 2,000,000 บาท, ค่าที่ปรึกษาเดือนละ 200,000 บาท และขอรถยนต์อีก 1 คัน ซึ่งทางผู้ต้องหาได้พาผู้เสียหายไปคุยงานโครงการดังกล่าวที่กระทรวง เพื่อสร้าง ความน่าเชื่อถือ จึงทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ ยอมจ่ายเงินไปเป็นจำนวน 2,000,000 บาท และให้รถยนต์อีกจำนวน 1 คัน ตามที่ผู้ต้องหาร้องขอ แต่ต่อมาภายหลังผู้เสียหายกลับไม่ได้รับการติดต่อจากผู้ต้องหาแต่อย่างใด จึงได้ติดต่อไปตรวจสอบที่กระทรวงที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง กลับพบว่าไม่มีโครงการดังกล่าว ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา
กระทั่งวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. สืบสวนทราบว่านายชยธรฯ ได้แอบกลับมาที่บ้านพัก หมู่ 5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปตรวจสอบ เมื่อพบผู้ต้องหา จึงได้เข้าทำการจับกุมตัวและนำส่งพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถาม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าตนเองไม่ได้เป็น สจ. ตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด เคยสมัครสอบแต่สอบไม่ผ่าน คนทั่วไปจึงมักเรียกตนเองว่า สจ.เอ และได้ใช้ชื่อดังกล่าวเรื่อยมา ซึ่งตนรับว่าได้แอบอ้างกับผู้เสียหายว่าเป็นทีมที่ปรึกษารัฐมนตรีฯ และได้พาไปคุยงานโครงการดังกล่าวที่กระทรวงจริง แต่เนื่องจากคุณสมบัติของบริษัทฯ ของผู้เสียหายไม่ผ่าน จึงทำให้ผู้เสียหายไม่ได้งานในโครงการดังกล่าว