เถ้าแก่เจอดีหลังไปฉายหนังกลางป่าช้า เจออาแปะโผล่ถามชื่อหนังก่อนหายวับ

เนื่องในเทศกาลตรุษจีนปี 2564 ทางมูลนิธิพิจิตรสามัคคี ได้นำทีมงานไปติดตั้งจอและเครื่องฉายหลังกางแปลง ในสุสานมูลนิธิพิจิตรสามัคคี ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้วัดมูลเหล็ก ต.คลองคะเชนทร์ อ.เมือง จ.พิจิตร เนื่องในวันชิวอิก หรือวันเที่ยว เนื่องจากมีความเชื่อที่เล่าสืบทอดต่อกันมาว่าประตูนรกและสวรรค์จะเปิดเพื่อปล่อยให้ดวงวิญญาณของผู้ที่ล่วงลับไปแล้วได้มารับส่วนกุศลหรือส่วนบุญที่ลูกหลานประกอบพิธีเซ่นไหว้ให้  ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 56 แล้วที่ได้จัดการฉายหนังกลางแปลงให้ผีดู ด้านเถ้าแก่ เล่าเคยเจอดี มีอาแปะมาถามชื่อหนังก่อนหายไปต่อหน้าต่อตา

นายบุญเชิด คุ่ยคร้าม เจ้าของและผู้จัดการบุญเชิดภาพยนตร์ ที่ถูกจ้างให้มาฉายหนังกลางป่าช้าแห่งนี้เล่าว่าตนเองเดินทางมาฉายภาพยนตร์ให้กับวิญญาณบรรพบุรุษชมมากว่า 50 ปีแล้ว และยังได้เล่าเรื่องราวชวนขนหัวลุกให้ฟังด้วยว่าหลายปีก่อนตอนมาติดตั้งเครื่องฉายหนัง มีอาแปะคนหนึ่งนุ่งกางแกงขาก๊วย ใส่เสื้อคอกลมสีขาวแบบคนจีน โผล่มายืนข้างๆตนที่กำลังใส่ฟิล์มในเครื่องฉายแล้วถามว่าวันนี้จะฉายหนังเรื่องอะไร ตนก็ตอบไป ทว่าเมื่อสิ้นเสียงของตน เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งปรากฏว่าอาแปะคนดังกล่าวหายวับไปกับตา ทำเอาตนเองขนหัวลุก

สำหรับปี 2564 นี้ ทางรองประธานมูลนิธิพิจิตรสามัคคีฯ ฝ่ายสุสาน ได้กล่าวว่า "การฉายหนังกลางแปลง เป็นการมอบความบันเทิงให้ดวงวิญญาณของบรรพบุรุษชาวจีน รวมถึงชาวไทยเชื้อสายจีนที่ล่วงลับไปแล้วแล้วนำมาฝังอยู่ที่สุสานแห่งนี้ โดยปัจจุบันมีมากกว่า 300 หลุม โดยทางมูลนิธิฯ ทำแบบนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2508 นับถึงปีนี้รวม 56 ปีเต็ม โดยปีนี้จะฉายภาพยนตร์ 3 เรื่อง คือ 1 โป่งเซียง เป็นภาพยนตร์สำหรับไหว้เจ้าที่และวิญญาณบรรพบุรุษ  เรื่องที่ 2 หนังฝรั่งเรื่อง โครตคนล่าขุมทรัพย์ป่านรก และเรื่องที่ 3 ฟัดหน้าใหญ่ต่อใหญ่ และในปีนี้ยังมีการทำหน้ากากอนามัยแบบกระดาษให้กับญาติที่มาไหว้บรรพบุรุษนำไปเผาให้บรรพบุรุษ หรือผู้วายชนม์ เพื่อเป็นการปลูกฝังให้ตระหนักถึงการสวมใส่หน้ากากอนามัยช่วงแพร่ระบาดโควิด ทั้งนี้อยากเชิญชวนประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงมาร่วมชมหนังกลางแปลง โดยทางมูลนิธิฯ มีการเตรียมเครื่องรางของขลังมอบให้กับคนที่ดูหนังกลางแปลงอยู่กับทีมงานจนจบการฉายหนังในปีนี้ด้วย"