ตร.เล่านาทีรวบครอบครัวหัวร้อน กร่างไม่ยอมรับผิด ยกหูให้เคลียร์กับทนาย

กรณีที่ทางผู้ใช้เฟซบุ๊ค Thanadech Kittichaisuk เปิดเผยคลิปเหตุการณ์ในกลุ่ม เพื่อนตำรวจเเฟนคลับ เหตุเกิดที่ สน.ดินแดง เมื่อช่วงเย็นวันที่ 24ก.พ.64ที่ผ่านมา ซึ่งครอบครัวหัวร้อนเจ้าเก่าอยู่กันพร้อมหน้า ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ นำรถที่ไม่ได้จดทะเบียนมาใช้ในทาง เเถมยังพูดจาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน พร้อมกับมีการมีการเผยวีรกรรมเเจ้งเกิด เมื่อครั้งอดีตภาพเก่าของครอบครัวหัวร้อน ที่สังคมไทยยังจำไม่เคยลืม โดยล่าสุดในคลิป เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ดินเเดงเห็นว่าเป็นรถป้ายแดงเเละบรรทุกคนมาเต็มอัตรา เลยเรียกตรวจ ก่อนจะเกิดการปะทะคารมณ์หวิดบานปลาย

ทั้งนี้จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 24ก.พ.64 ในพื้นที่ สน.ดินเเดง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้ง 3 ข้อหา เเก่ครอบครัวหัวร้อน
1.ไม่มีใบอนุญาตขับขี่
2.นำรถที่ไม่ได้จดทะเบียนมาใช้ในทาง
3.ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน

หากย้อนกลับไปเมื่อเกือบ3ปีที่เเล้ว หลายๆคนน่าจะยังคงจำกันได้ ครอบครัวหัวร้อน ที่ประกอบไปด้วย นายพยอม แสงวันดี, น.ส.หทัยรัตน์ สมถวิล และนายอิทธิพล สมถวิล ซึ่งทั้ง3คนเป็นพ่อ แม่ ลูก ได้สร้างวีรกรรมดังกระฉ่อนจากการที่ไปรุมด่าทอ เจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากถูกจับกุมเนื่องจากได้ไปจอดรถในที่ห้ามจอด เเถมยังไปรุมทำร้ายร่ายกายเจ้าหน้าที่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บอีกด้วย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดที่บริเวณตลาดนัด ริมถนนสุขุมวิท พื้นที่ของ สภ.มาบตาพุด

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอตรวจใบขับขี่ แต่นายพยอม ผู้เป็นพ่อ นั่งอยู่ในรถไม่ยอมเจรจากับตำรวจ และ ก็เลื่อนรถไปจอดที่ห้ามจอดขาวแดง ซึ่งเป็นการทำความผิดซ้ำสองอีก ก่อนตำรวจจจะเชิญตัวลงมาจากรถ ซึ่งผู้เป็นพ่อก็ไปตามลูกเเละภรรยา มารุมจวกตำรวจ โดย น.ส.หทัยรัตน์ ลั่นวาจาว่า ตำรวจมีสิทธิ์อะไรที่จะมาเชิญตัวลูกชายของเขาลงจากรถได้ ชี้หน้าสบถหยาบพร้อมแสดงพฤติกรรมรุนแรงใส่เจ้าหน้าที่

สุดท้ายครอบครัวดังกล่าว ก็ได้ยกกระเช้าไปขอโทษ ผกก.สภ.มาบตาพุด เเละ ร.ต.อ.วิทยา วุฒิพันธ์ รอง สารวัตรจราจร ที่ถูกครอบครัวนี้ทำร้ายร่างกาย นอกจากนี้ ครอบครัวดังกล่าวยังได้ก็ถูกขุดคุ้ยประวัติพบว่า เคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันมาแล้วในหลายๆพื้นที่

ในส่วนของความคืบหน้าในเหตุการณ์ล่าสุด ที่เกิดขึ้นบริเวณแยกประชาสงเคราะห์ของครอบครัวหัวร้อนนั้น ทาง สารวัตรจราจร สน.ดินเเดง เผยว่า ระหว่างการจับกุม กลุ่มของผู้ถูกกล่าวหา ได้บอกให้เจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์ โดยกล่าวอ้างว่าปลายสายเป็นทนายความขอเจรจากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แลกกับการที่จะไม่ให้ดำเนินคดี โดยผู้ถูกกล่าวหาพร้อมที่จะขอโทษ และรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะกลัวว่าหากถูกดำเนินคดีอีกจะต้องได้รับโทษหนัก เพราะที่ผ่านมามีคดียาวเป็นหางว่าว ไล่ตั้งเเต่ เมื่อปี2561 เหตุการณ์สร้างชื่อคือการมีเรื่องทำร้ายตำรวจ สภ.มาบตาพุด จ.ระยองรวมทั้งในพื้นที่ สภ.ปราสาท จ.สุรินทร์ และ สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี และยังมีคดีกับประชาชนในพื้นที่อื่น ๆ จนเป็นคดีความรวมทั้งสิ้นเเล้ว 4 คดี ทั้งนี้ครอบครัวหัวร้อน ได้ถูกตร.คุมตัวนอนคุกเมื่อคืนที่ผ่าน เเละนำตัวไปส่งฟ้องศาลดำเนินคดีต่อไป