หนุ่มเปิดใจ ไปกางเต็นท์บนภูกระดึง ก่อนเจอเรื่องประหลาดกวางป่ามานอน
กลายเป็นภาพที่ถูกแชร์ออกไปทั่วโลกโชเซียลกับภาพของเจ้ากลางป่าที่มานอนเฝ้าเต็นท์ให้นักท่องเที่ยวบนภูกระดึง สร้างความแปลกใจให้แก่ชาวเน็ตท่านอื่นที่ได้พบเห็นเป็นอย่างมากกับพฤติกรรมแสนเชื่องนี้โดยล่าสุดทางผู้โพสต์ภาพนี้ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ตนเองได้พบโดยระบุว่า...
แรงแผ่เมตตา : พระพุทธองค์เคยตรัสเอาไว้ว่าไม่มีเหตุการณ์ใดที่เกิดขึ้นเพราะความบังเอิญ เป็นเพราะการกระทำของเราในอดีตจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้เราได้พบกันทั้งมนุษย์และสัตว์ที่ต้องเวียนว่ายตายเกิดมาพบกันอีกในคราวนี้และคราวหน้า ผมมักจะชอบใช้ชีวิตปลีกวิเวกตามป่าเขานับไม่ถ้วน ไม่เคยพบว่ามีสัตว์ป่าที่ระแวงระวังไม่ไว้ใจมนุษย์อย่างเรา เข้ามานอนแนบชิดกันแบบนี้เลย ทั้งๆที่มีเต๊นท์มากมายหลายร้อยหลังตั้งเรียงรายมีระเบียงยื่นออกมาเหมือนๆกันแบบนี้ เค้าก็เลือกมานอนตรงนี้ อาจจะรู้สึกถึงความอบอุ่นและความปลอดภัยกระมัง? มีผู้คนมากมายเข้ามายืนล้อมถ่ายรูปกวางตัวนี้นอนแบบขดตัวหลับอย่างสบายไร้กังวล พอผมกลับออกมาจากป่ามาถึงเต๊นท์ก็เห็นคนหลายคนกำลังยกกล้องถ่ายรูปกันมากมาย
พวกเค้าคงไม่เคยเห็นเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนเช่นกัน แต่ผมรู้อยู่ในใจเพราะอานิสงค์ของการไหว้พระสวดมนต์ อุทิศส่วนกุศลและแผ่เมตตาอยู่เป็นประจำเช้าค่ำนี่เอง เมื่อทำบ่อยๆก็จะกลายเป็นพลังงานแห่งความเมตตาอยู่รอบๆตัวเรา ไม่ทำลายศีลห้า ไม่เบียดเบียนผู้อื่นทั้ง กาย วาจาและใจ หมั่นทำทานให้ได้เป็นประจำทุกๆวัน ความดีเหล่านี้เมื่อสะสมนานวันเข้าก็จะก่อให้เกิดปีติสุขภายในจิต ไปไหนก็จะได้พบสิ่งดีงามรอบๆตัว พบกับผู้คนที่จิตใจงาม สถานที่งดงาม รวมทั้งสัจธรรมที่คอยบอกให้รู้ว่า เมื่อพบความสุขทางโลกสุดทางแล้ว เมื่อถึงเวลาให้เข้ามาพบกับสุขทางธรรม เมื่อได้ปัญญาธรรมแล้วจะเข้าใจว่า สุขทางโลกเป็นสุขที่เสพได้ชั่วคราวเป็นต้นเหตุของทุกข์ต่างๆที่จะติดตามมาหากเราพิจารณาให้ถ่องแท้ พระพุทธองค์จึงทรงเรียกว่า สุขเวทนา คือสุขๆดิบๆไม่จีรังยั่งยืน เป็นเหตุให้ลาภเสื่อม ยศเสื่อม สรรเสริญเสื่อม
เมื่อไม่ยอมปล่อยวางเมื่อถึงเวลาอันควรที่จะปล่อยวาง เพราะจิตยึดติดแน่นหวงแหน อาลัยยอาวรณ์เพราะกว่าจะหามาได้ก็ต้องเหนื่อยหนักหนาสาหัส ตอนไขว่คว้ามาก็ทุกข์ ตอนได้มันมาแล้วก็ทุกข์ ตอนจะสูญเสียมันไปก็ทุกข์ นี่แหละครับสุขเวทนาที่เราต้องการกันทุกๆคน แม้กระทั่งตัวผมก็ต้องการเช่นเดียวกัน แต่เมื่อหมดเวลาแล้วเราก็ต้องฝึกใจปล่อยมันไปให้ได้ ถ้าปล่อยไม่ได้ก็ต้องเจ็บปวดทุรนทุราย เพราะจิตเรานั้นโดนกิเลสเข้ายึดครองมานาน ยากแท้ที่จะแกะมันออกไปได้ง่ายๆ การรักษาศีลห้าให้ได้ร่วมกับการฝึกสมาธิในแนวทางพุทธศาสนาเท่านั้นที่จะช่วยให้จิตเราเข้มแข็งมากพอที่จะต่อสู้กับกิเลสที่มีกำลังมหาศาลนี้ได้ดีวันดีคืน แต่ถึงอย่างไรก็ต้องมีเวลาให้กับข้อนี้เหมือนการทำการงานชนิดนึงที่มีทรัพย์ทางธรรมให้เราเอาไปใช้เปรียบเทียบกับทรัพย์ทางโลก