กิจการร้านค้ารวมตัวขอความเป็นธรรม ขนาดตลาดกลางกุ้งยังกลับมาเปิดได้เลย

   เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 4 มีนาคม 2564 ผู้ประกอบกิจการที่ยังไม่ได้รับการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ในรอบล่าสุดตามประกาศของจังหวัดสมุทรสาคร ได้แก่ ร้านสัก ร้านนวดเพื่อสุขภาพ ฟิตเนส  สปา ร้านความงาม เป็นต้น ซึ่งได้รวมตัวกันมาจำนวนราว 30 คน เพื่อมายื่นหนังสือกับจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อขอความเป็นธรรมและเห็นใจที่กิจการต้องถูกปิดเป็นเวลากว่า 2 เดือน  โดยมีนายสุรพันธ์ สิทธิชัย ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร ได้มาอธิบายถึงเหตุผลที่ยังไม่สามารถเปิดกิจการอื่นได้ 

เนื่องจากต้องได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด และต้องผ่านความเห็นชอบ จากทาง ศบค.ส่วนกลางด้วย ซึ่งทางตัวแทนกิจการที่ยังไม่ได้รับการผ่อนผันได้ชี้แจงว่า พวกตนต้องทนรอมานานกว่า 2 เดือน ซึ่งมีความหวังมาตลอดว่า ทุกครั้งที่จังหวัดประกาศคำสั่งต่างๆออกมา ก็น่าจะมีกิจการของพวกตนที่ได้รับผ่อนผันบ้าง แต่กลับไม่มีเลย จนล่าสุด หลังจากที่ตลาดกลางกุ้งเปิดได้ หลายกิจการถูกผ่อนผันก็ยังไม่มีกิจการเหล่านี้บรรจุอยู่ ทั้งๆที่อาชีพของพวกตนไม่เสี่ยงเหมือนกับที่อื่น ไม่ใช่แหล่งระบาดใหญ่ แต่กลับไม่ถูกพิจารณาให้เปิดกิจการ ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ไม่มีเงินเข้ามา แต่กลับมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ภาระหนี้สินมีมากมาย  นอกจากจะเปิดกิจการไม่ได้ กลับต้องเสียฐานลูกค้าไปเกือบหมด ซึ่งตอนนี้พวกตนก็ไม่ได้ต้องการการเยียวยา แค่ขอให้เปิดกิจการให้สามารถทำมาหาเลี้ยงชีพได้ ก็พอใจแล้ว 

ซึ่งครั้งนี้ทางนายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายณัฐวุฒิ กุสุโมทย์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานอำนวยการสำนักงานจังหวัดสมุทรสาคร นายสุรพันธ์ สิทธิชัย ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรสาคร ได้เชิญตัวแทนเข้ามาชี้แจงถึงแนวทางที่ทางจังหวัดจะทำ ซึ่งต้องเป็นไปตามขั้นตอน โดยทางจังหวัดจะรวบรวมข้อมูล จำนวนผู้ได้รับผลกระทบ ความเสียหาย แล้วส่งไปยังคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาครเพื่อให้พิจารณาผ่อนคลาย จากนั้นจะส่งเรื่องให้ทาง ศบค.ใหญ่พิจารณา ซึ่งความเดือดร้อนของหลายๆอาชีพ ทางจังหวัดทราบในสิ่งที่เกิดขึ้น และอยากให้ทุกอาชีพได้เปิดกิจการโดยเร็วเช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับทาง ศบค.ส่วนกลาง ว่าเห็นชอบอย่างไร

ขอบคุณ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร