ลูกจ้างเขมรแสบวางแผนปล้นบ้านเถ้าแก่แต่โป๊ะแตกวันลงมือดันจ๊ะเอ๋ตร.เต็มๆ

กลายเป็นเรื่องราวที่ได้รับความสนใจอย่างมาก เมื่อมีรายงานเหตุการณ์สุดระทึกที่ในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา หลังอดีตลูกจ้างรายหนึ่งวางแผนปล้นบ้านนักธุรกิจใหญ่อดีตนายจ้าง ซึ่งรวมหัวกับเพื่อนอีก 4 คน ก่อเหตุดังกล่าว โดยแผนของพวกเขามีอยู่ว่า จะจับตัวเถ้าแก่กับภรรยา รวมถึงลูกๆ และแม่บ้านเป็นตัวประกัน 

จากนั้นจะบังคับให้เขียนเช็กและถอนเงิน ก่อนกำจัดทิ้งทั้งครอบครัวที่มีทั้งหมด 10 ชีวิต แต่แล้วเหตุการณ์กลับพลิกผัน เพราะแผนการดันไปรั่วไหลถึงหูเจ้าของบ้าน ทำให้มีการซ้อนแผนและวิสามัญผู้ก่อเหตุ 4 ชีวิต

โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งชาย 4 คนหอบอุปกรณ์ในการปล้นครั้งนี้อย่างครบครัน และได้บุกเข้ามายังคฤหาสน์หลังโตของเถ้าแก่เจ้าของอุตสาหกรรมไฟฟ้า เพื่อที่จะจับเจ้าของบ้านเป็นตัวประกัน แต่เมื่อพวกโจรเข้ามาแล้วก็ต้องชะงักในบัดดล เพราะคนที่รออยู่ในบ้านไม่ใช่เถ้าแก่และลูกๆ แต่เป็นกองกำลังสารวัตรทหารพร้อมอุปกรณ์การจับกุมแบบครบมือเช่นกัน

ทั้งนี้หลังวิสามัญคนร้ายทั้ง 4 คนแล้ว เจ้าหน้าที่สามารถระบุตัวคนร้ายได้คือ นายโอม โสวรรณารัต วัย 21 ปี ซึ่งเป็นคนบงการหลัก กับชายวัย 21, 23 และ 30 ปี ซึ่งเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ซึ่งจากการสอบสวนพบว่า นายโอมเคยทำงานเป็นคนขับรถให้กับบ้านเถ้าแก่หลังนี้เมื่อปี 2562 ก่อนจะถูกเลิกจ้างในปีต่อมา ซึ่งเถ้าแก่ได้เลือกคนขับรถคนใหม่มาทำงานแทนที่

กระทั่งเมื่อต้นปี 2564 นายโอมได้วิงวอนขอกลับมาทำงานให้เถ้าแก่อีกรอบ แต่ถูกปฏิเสธ จึงเกิดความแค้นและเริ่มวางแผนปล้น โดยเขารวบรวมพรรคพวกมาได้ 3 คน และยังชักจูงคนขับรถคนใหม่ของเถ้าแก่ มาเข้าร่วมแผนการสุดอุกอาจนี้ด้วย ซึ่งตามแผนเดิมที่วางไว้คือกลุ่มคนร้ายจะบุกไปยังคฤหาสน์และบังคับเถ้าแก่ให้เขียนเช็คเป็นเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 30 ล้านบาท จากนั้นจะจับลูกสาวคนหนึ่งของเถ้าแก่เป็นตัวประกัน นำตัวขึ้นรถไปยังธนาคารเพื่อนำเช็คไปขึ้นเงิน และเมื่อทางธนาคารโทร. กลับมายืนยันเรื่องการเบิกจ่ายเงินก้อนดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย คนร้ายซึ่งได้เงินก้อนนั้นมาแล้วก็จะกำจัดครอบครัวเถ้าแก่และแม่บ้านทันที

จากนั้นก็จะปล้นเงินและอัญมณีทั้งหมดในคฤหาสน์ ก่อนจะนำร่างครอบครัวเถ้าแก่ใส่ถุงพลาสติกขึ้นรถไปทิ้งไว้ในที่รกร้าง และแยกย้ายกันหลบหนี โดยคนร้ายที่เข้าไปถอนเงินออกจากธนาคารจะหนีข้ามแดนมายังประเทศไทย ส่วนคนอื่นๆ ไม่จำเป็นต้องออกนอกประเทศ ทั้งนี้ นายโอมวาดฝันไว้ว่า ถ้าลงมือเสร็จแล้ว ตั้งใจจะนำเงินไปซื้อรถ Lexus RX 570 รวมถึงนำเงินไปหมั้นสาวและแต่งงาน

แต่แล้วแผนดันรั่วเสียก่อนเมื่อ นายอาร์ม (นามสมมติ) คนขับรถคนใหม่ของเถ้าแก่เกิดหวาดกลัวขึ้นมา จึงนำเรื่องไปแจ้งให้นายจ้างของตนได้รับรู้ได้รู้ตัวล่วงหน้า เถ้าแก่จึงประสานเรื่องไปยังสารวัตรทหารจนมีการวางแผนตลบหลังคนร้ายขึ้น ซึ่งแทนที่จะปล่อยให้เถ้าแก่และครอบครัวตกอยู่ในอันตราย เจ้าหน้าที่ได้ลอบเคลื่อนย้ายคนในบ้านออกไปยังที่ปลอดภัย จัดกำลังพลเฝ้าระวัง และขนกำลังสารวัตรทหารมาประจำการที่คฤหาสน์เพื่อขัดขวางแผนร้าย 

กระทั่งนายอาร์มที่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ได้ขับรถพาคนร้ายทั้ง 4 คนร้ายเดินทางมายังคฤหาสน์ของเถ้าแก่เพื่อดำเนินการตามแผน แต่หลังจอดรถแล้ว แทนที่จะเข้าไปในคฤหาสน์เพื่อรวมกลุ่มกับนายโอมและพรรคพวก แต่นายอาร์มกลับทำทีไปปิดประตูทางเข้าคฤหาสน์และรออยู่ด้านนอก ก่อนจะรีบหนีไปจากจุดเกิดเหตุ

จนคนร้ายทั้ง 4 เข้ามาในคฤหาสน์ กองกำลังสารวัตรทหารก็รอพวกเขาอยู่แล้ว เจ้าหน้าที่ตะโกนสั่งให้กลุ่มคนร้ายยอมจำนน แต่พวกเขาปฏิเสธและเริ่มเปิดฉากต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่สวนกลับและวิสามัญทั้ง 4 ชีวิตในที่เกิดเหตุอย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้ต้องสงสัยจะถูกวิสามัญทั้งหมดแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังคงต้องสอบสวนเหตุการณ์ครั้งนี้ต่อไป โดยอยู่ระหว่างค้นหาแหล่งที่มาของอุปกรณ์การปล้นที่คนร้ายนำมาใช้ รวมถึงควานหาตัวคนอื่นๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการนี้