สาวกู้เงินผ่านแอปฯ คิดดอกปีละ 100% สุดท้ายจ่ายไม่ไหว ก่อนถูกทวงหนี้

เรื่องราวของ น.ส.วรรณทา มีแก้ว อายุ 45 ปี ชาว จ.สุโขทัย ได้เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก หลังถูกข่มขู่ทางไลน์ให้ชดใช้เงินที่กู้ผ่านแอปฯ ไม่เช่นนั้นจะส่งคนมายึดทรัพย์ และกระทืบให้ตายจนเกิดความกลัวว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย
น.ส.วรรณทา กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตนพยายามแก้ปัญหาโดยพยายามปิดบัญชีเงินกู้ที่กู้ผ่านแอปฯ จากเดิมที่กู้มาทั้งหมด 8 แอปฯ ตอนนี้เหลือเพียง 3 แอปฯ แต่เจอปัญหาต้นทบดอก ไม่สามารถที่จะปิดได้อีก ทั้งกิจการรับซักรีดก็ซบเซา เงินเก็บที่หามาเก็บไว้ก็หมดลง ทำให้ทุกวันนี้เงินจะกินข้าวก็ยากลำบาก แล้วต้องมาเจอปัญหาข่มขู่แบบนี้อีก
เริ่มต้นจากวันหนึ่งตนเล่นเกม แล้วเห็นโฆษณาเชิญชวนกู้เงินผ่านโทรศัพท์ ง่าย ๆ เพียงใช้บัตรประชาชนกับหน้าสมุดบัญชี ตนเองจึงลองกู้เงินไป 2,000 บาท เนื่องจากธุรกิจซักอบรีดที่ทำอยู่ประสบปัญหา โดยหลังกู้โดนหักดอกทันที 35% ได้เงินมา 1,300 บาท มีระยะเวลาคืนภายใน 7 วัน หากเกินก็จะต้องเสียดอก 300 บาทต่อวัน คิดแล้วเป็นดอกเบี้ยกว่าปีละ 100%
ต่อมาตนก็กู้เพิ่มในแอปฯ ใหม่เพื่อนำเงินมาจ่ายแอปฯ เก่า เนื่องจากหาเงินไม่ทัน จนกระทั่งทบไปทบมาจนกู้ไป 8 แอปฯ เพื่อนำเงินมาหมุน แต่ก็ไม่ดีขึ้นเพราะไม่มีลูกค้า
สุดท้าย ตนจึงได้นำเงินเก็บที่สะสมไว้ มาปิดเงินกู้ไปได้ 5 แอปฯ ปัจจุบันเหลือ 3 แอปฯ ที่ต้องจ่ายเงินอยู่ แต่เงินไม่พอ ทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินกู้ได้ จนถูกทวงถาม ตนก็พยายามอ้อนวอนให้ผ่อนผันขยายเวลาและไม่คิดดอกเพิ่ม แต่ทางเจ้าหนี้ไม่ยอม บอกว่าต้องจ่ายค่าดอกมาทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละ 1,000 บาท พร้อมส่งข้อความทวงถามมาทางไลน์
กระทั้งข่มขู่ว่า จะส่งคนมายึดทรัพย์ ตนจึงตัดสินใจแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และไปร้องทุกข์ที่ศูนย์ดำรงธรรม ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าตนทำผิดพลาดที่ไปกู้เงินมา แต่ก็พร้อมจะชดใช้เงินที่กู้มาแต่ก็ขอให้เวลาหาเงิน และไม่ควรคิดดอกสูงจนโหดถึงขนาดนี้

ตัวแม่ทวงบัลลังก์ แหม่ม จินตหรา ศัลยกรรมชุดใหญ่ เปลี่ยนไปเยอะมาก

"ร.ต.อ.จตุรงค์" ตำรวจนายสุดท้ายเสียชีวิต หลังเครื่องดิ่งลงทะเล

อาลัย อาสากู้ภัย เรือล่มขณะค้นหาผู้สูญหายในคลองเขาโร

คิดหนัก "ส้มเช้ง สามช่า" ประกาศปิดร้านก๋วยเตี๋ยวริมน้ำ หลังโดนไล่ที่
