หนุ่มงง ทำไมมนุษย์เงินเดือนมองการเก็บเงินล้านก่อนอายุ 30 เป็นเรื่องยาก
หนุ่มงงหนัก ตั้งคำถามถึงมนุษย์เงินเดือน ทำไมมองการเก็บเงินล้านก่อนอายุ 30 เป็นเรื่องยาก
เป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากในโลกออนไลน์ เมื่อมีสมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอมรายหนึ่ง ได้มีการตั้งคำถามไปถึงชาวเน็ตถึงหัวข้อที่ว่า "งงว่าทำไมถึงได้มีมนุษย์เงินเดือนจำนวนมาก ถึงมองว่าการเก็บเงินล้านก่อน 30 เป็นเรื่องที่ยากครับ ผมว่ามันเป็นเรื่องปกติมากๆ" โดยทางผู้โพสตืได้มีการระบุข้อความว่า
"จากนี้ผมจะเขียนจากข้อเท็จจริงแล้วนะครับ แต่จะเขียนอธิบายไว้เล็กน้อย และน่าจะกระทบคนบางคนอยู่แล้วแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่บอกให้รู้ไว้นะครับว่า มันก็เป็นข้อเท็จจริงด้านหนึ่งอ่ะนะ ไม่ได้จงใจนะว่าใคร ส่วนใครบอกอะไรมามันก็เป็นข้อเท็จนึงด้านนึงของคนคนนั้นอ่ะนะครับ มันเป็นเรื่องส่วนตัวของคนคนนั้นก็ไม่คิดจะไปเถียงเรื่องส่วนตัวของใครอยู่แล้ว และกระทู้นี้แค่จะแชร์ด้านๆนึงเท่านั้น ขอขยายความคำว่าปกติ คือทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนไปเป็นปกติเลย ไม่ได้ไปรับเงินจากที่อื่นเพิ่ม รับจากที่ทำงานอย่างเดียว เพราะฉะนั้นผมไม่ได้จะไปว่าใครทำไม่ได้แบบนี้คือผิดปกตินะครับผม
นี่ผมไม่ได้พูดลอยๆนะครับ ผมจะเขียนตัวอย่างแบบดิบๆไว้ด้วย คือก่อนอื่นผมขอไม่นับต่ำแหน่งงานต่ำกว่า ป.ตรี หรือเงินเดือนที่เริ่มต้นด้วยเลขหน้าเป็นเลข 1 นะครับ (ที่ผมเขียนแบบนี้เพราะเขียนตามข้อเท็จจริงของโอกาสที่จะทำได้สูง และผมเชื่อว่าคนที่เขามีเป้าหมาย และ...เขาไม่น่าจะมองว่านี่เป็นการดูถูกหรอกนะครับ) ทีนี้มาเข้าเรื่องกันเลยนะครับ (ว่าสถานะมนุษย์เงินเดือน สามารถทำได้ไหม) สมมุติว่าผมให้ตัวเลขจำนวนปีการทำงานอย่างน้อยเลยครับหลังเรียนจบป.ตรี อย่างน้อยมันไม่น่าจะต่ำกว่า 6 ปี เพราะงั้นผมขอคิดแค่ 6 ปีนะครับ
ส่วนเงินเดือนตั้งแต่เริ่มทำงานไปจนถึง 30 มันก็จะต้องมีจุดที่สตาร์ทและเพิ่มไปเรื่อยๆ ดังนั้นผมขอเฉลี่ยแบบดิบสุดๆเป็น 25,000 บาทต่อเดือนนะครับ ทีนี้ถ้าคนคนนี้ไปทำงานอยู่ในโรงงานที่ได้โบนัสเฉลี่ยขั้นต่ำที่ซักประมาณ 4 เดือน ถ้าคิดจากค่าเฉลี่ยดิบๆของเงินเดือน 25,000 บาท 6 ปีก็จะได้โบนัสรวม 6 แสนบาท แล้วเงินเดือนแบบเฉลี่ยดิบๆที่ผมตีเอาไว้ซัก 25,000 สมมุติว่าใช้ไปเลยซักเดือนละ 12,000 มันก็จะเหลือเก็บอยู่ 13,000 ต่อเดือน 6 ปีก็จะมีเท่ากับ 936,000 รวมกับโบนัสรวมทั้งหมดก็จะเป็น 1,536,000 นั่นหมายความว่า ถ้าประมาณนี้ อายุ 30 ก็จะมีเงินเกิน 1 ล้านมาอีก 536,000 บาทซึ่งอันนี้สามารถเอาไปซื้อรถได้อีกอย่างน้อย 1 คัน นี่อ่ะครับ
จากตัวอย่างที่ผมยกขึ้นมามันเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นมากๆเลย และเรื่องจริงๆคือสามารถเก็บเงินได้มากกว่าที่ผมคำนวณนี้แบบดิบๆด้วยซ้ำ แต่งงว่าทำไมมีมนุษย์เงินเดือนจำนวนมาก ชอบไปพิมพ์ว่าสถานะมนุษย์เงินเดือนจะทำเรื่องแบบนี้มันยาก มันเป็นไปไม่ได้ ฯลฯ ทั้งๆที่ความจริงเรื่องนี้มันเป็นเรื่องปกติมากๆเลย "และเอาจริงๆสำหรับคนที่ทำไม่ได้มันเป็นเพราะรายรับ กับรายจ่ายต่างหากครับ หรือไม่ก็ไม่ได้จงใจจะเก็บเงิน หรือเก็บเป็นเงินตั้งแต่แรก" (ข้อความนี้จริงๆผมก็เขียนไว้ตั้งแต่เดิมแล้วนะครับ จริงๆก็จะเขียนแค่เชิงข้อเท็จจริงเท่านั้น ว่าผมก็รู้ว่าทำได้ หรือไม่ได้เพราะอะไร แต่มันน่าจะอ่านดูไม่น่าพอใจสำหรับคนกลุ่มนึงผมต้องขออภัยด้วยนะครับผม ไม่ได้มีประเด็นอะไรไปว่าคนอื่นเลยครับ เพราะเรื่องส่วนตัวของคนอื่นถ้าผมมาตั้งกระทู้มาเถียงก็แปลกละครับ) และต้นเรื่องที่ผมมาเขียนกระทู้แบบนี้เพราะว่าผมเห็นมีคนชอบไปพิมพ์ว่า "มนุษย์เงินเดือน" มันทำอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ได้ แล้วมันรู้สึกอึดอัดครับ เดี๋ยวเด็กๆเห็นเขาจะหดหู่กันหมด เลยเอาความจริงอีกด้านที่เกิดขึ้นจริงๆมาเล่าให้ฟังครับ"
ทั้งนี้ ได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก บางคนเข้ามาบอกว่าค่าใช้จ่ายแต่ละคนต่างกัน พูดง่ายแต่ทำยาก ขณะที่บางคนก็บอกว่าต้นทุน รูปแบบชีวิต ของแต่ละคนไม่เหมือนกันตัวอย่างที่ เรียนจบทำงาน ใช้หนี้ให้ที่บ้าน ใช้หนี้ กยศ., เรียนจบทำงาน แต่เรียนไม่เก่ง จบม.ไม่ดัง เงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาทหรอก, เรียนจบทำงาน ใช้เงินไม่เป็น มีบัตรเครดิต มีหนี้ เป็นแสนๆ มันก็มีไง
ขณะที่บางคนบอกว่าชีวิตจริงมันไม่ง่านเหมือนการกดเครื่องคิดเลข บางคนอาจจะได้ บางคนไม่ได้ บางคนมีแรงจูงใจในการเก็บเงินอาจจะเพื่อใช้ในการลงทุนอะไรสักกอย่าง บางคนแรงจูงใจในการทำงานคือหาเงินมาสนองตัญหาของตัวเอง (ถ้าแบบนี้ก็ไม่น่าจะเก็บได้)
ขอบคุณ : pantip