ภาพล่าสุด"น้องบีม" วัย 14 หลังคนใจบุญบริจาคช่วยเหลือ วันนี้ยิ้มได้แล้ว
ภาพล่าสุด น้องบีม เด็กหนุ่มวัย 14 ที่ต้องกลายเป็นเสาหลักของบ้านหลังคนใจบุญบริจาคช่วยเหลือ วันนี้ยิ้มได้อย่างเป็นสุข
จากกรณีคุณเมศ ปรเมศร์ มีสมภพ หรือคุณเมศ เจ้าชายน้อย ได้นำเสนอเรื่องราวของน้องบีม เด็กชายวัย 14 ปีที่ต้องกลายเป็นเสาหลักหาเลี้ยงครอบครัวเนื่องจากพ่อแม่ล้มป่วย ล่าสุดหลังเรื่องราวของน้องถูกเผยแพร่ออกไปก็ได้รับความช่วยเหลือเป็นเงินบริจาคจากผู้ใจบุญ ซึ่งภาพล่าสุด น้องได้นำเงินไปซื้อรองเท้านักเรียนและรองเท้ากีฬาใหม่ โดยให้ครูประจำชั้นพาไปภาพที่เห็นคือน้องได้ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
ก่อนหน้านี้คุณเมศ ได้เล่าเรื่องราวของน้องไว้ว่า หนุ่มน้อยวัย 14 ปีคนนี้ต้องกลายเป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องออกไปรับจ้างกวาดขยะ ลากฟาง กวาดขุยมะพร้าว เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว เนื่องจากพ่อมีอาชีพรับจ้างก่อสร้าง มีงานบ้างไม่มีบ้าง ทำให้มีรายได้ไม่ประจำ อีกทั้งผู้เป็นแม่ก็ล้มป่วยหลายโรค ทำให้ไม่สามารถออกไปทำงานรับจ้างได้
บางครั้งแย่ถึงขนาดเงินสักบาทก็ไม่มีติดกระเป๋า ข้าวสักเม็ดยังไม่ได้กิน
เรื่องราวคร่าวๆของน้องบีมว่าปัจจุบันน้องบีมเด็กวัยเพียง 14 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.2 ที่ โรงเรียนแห่งหนึ่ง อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี พักอยู่ภายในห้องเช่าร้างเพียงตัวคนเดียวภายในห้องที่แทบไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรเลย มีเพียงฟูกที่นอนเก่าๆ หมอน ผ้าห่ม พัดลมเก่าๆ 1 ตัว โดยมีคุณพ่อและภรรยาใหม่ (น้องบีมเรียกว่า แม่) อยู่ห้องข้างๆ โดยที่คุณพ่อมีอาชีพรับจ้างก่อสร้าง มีงานบ้างไม่มีบ้าง แม่ (ภรรยาใหม่) ได้ล้มป่วยหนักหลายโรค ทำให้ไม่สามารถออกไปทำงานรับจ้างได้
เด็กวัยเพียง 14 ปี ต้องกลับกลายเป็นหัวเรือหลักของครอบครัว ออกไปรับจ้างกวาดขยะ ลากฟาง กวาดขุยมะพร้าว แม้แต่ออกไปเก็บผักตามข้างถนน จับเขียด เพื่อปั่นจักรยานเก่าๆ นำไปขายได้เงินมา ก็นำมาให้แม่พ่อเอาไว้ซื้อข้าว ซื้อยา แต่ยามไหนที่ไม่มีงานจ้าง วันนั้นทั้ง 3 ชีวิตต้องอดข้าว น้องบีมยังนั่งพูดทั้งน้ำตาอีกว่า ตอนไม่มีกินข้าวสักเม็ดก็ไม่มี ตังสักบาทก็ไม่มีติดกระเป๋า จะกินอะไรก็ไม่ได้กินครับ ผมก็คิดว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ผมรักพ่อกับแม่ผมครับ เห็นหน้าพ่อกับแม่ ผมก็มีกำลังใจทำงาน ผมเห็นเค้าลำบาก ผมอยากให้เค้าสบาย ผมต้องเรียนให้จบ ต้องให้เค้าสบาย..ครับ
แม้ใครจะมองพ่อผมเป็นยังไง ผมก็รักเค้า ถึงเค้าจะไม่ใช้แม่แท้ๆของผม แต่เค้าก็เลี้ยงผมมา เค้ามีบุญคุณกับผมมาก ถึงผมเหนื่อยแค่ไหน ผมไม่มีวันที่จะทิ้งเค้า..ซึ่งระหว่างที่เมศไป วันนั้นข้าวสารในห้องแทบจะไม่มีกินเลย เงินก็แทบไม่มีติดกระเป๋า เบื้องต้นเมศได้นำข้าวสาร อาหารแห้งให้กับทางน้องบีม และได้ให้เงินส่วนตัวจำนวนหนึ่งเพื่อช่วยเหลือน้องบีม และครอบครัวเบื้องต้น
อีกทั้งยังได้ระบุช่องทางช่วยเหลือ ซึ่งมีผู้ใจบุญหลายคนร่วมบริจาค
ล่าสุดคุณเมศ ได้เผยแพร่ภาพล่าสุดของน้องที่นำเงินบริจาคจากทุกคนไปซื้อรองเท้านักเรียนใหม่เนื่องจากคู่เก่าที่มีนั้นเก่าชำรุดจนพื้นรองเท้าทะลุไปแล้ว ระบุ
"รองเท้าคู่เก่าลมพัดเข้าในรองเท้าได้ วันนี้น้องดำ ได้นำเงินบริจาคจากที่เพื่อนๆส่งมอบให้ ไปซื้อรองเท้านักเรียนและรองเท้ากีฬา โดยให้ครูประจำชั้นเป็นคนพาไปซื้อให้"
ขอบคุณ
Poramet Misomphop