สังคม

heading-สังคม

สปส.เตือนแลกเงินสด ม.33 มีโทษจำคุก หนักสุดถึงขั้นถูกตัดสิทธิ์เงินเยียวยา

24 มี.ค. 2564 | 15:19 น.
สปส.เตือนแลกเงินสด ม.33 มีโทษจำคุก หนักสุดถึงขั้นถูกตัดสิทธิ์เงินเยียวยา

นางลัดดา แซ่ลี้ รองโฆษกสำนักงานประกันสังคม ได้มีการยืนยันว่า สำหรับผู้ประกันตน มีความผิดทั้งทางอาญาและทางแพ่ง มีโทษทั้งจำคุกและเรียกเงินคืน หนักสุดถึงขั้นถูกตัดสิทธิ์เงินเยียวยาจากภาครัฐตลอดชีวิตเพราะถือเป็นการทุจริตเงินหลวง

หลังจากที่มีกระแสข่าวออกมาอย่างมากมายสำหรับกรณีของ ผู้ที่ได้รับการเยียวยาช่วยเหลือจากภาครัฐในช่วงโควิด-19 ระบาด ทั้ง โครงการเราชนะ คนละครึ่ง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมถึงโครงการ ม.33 เรารักกัน ปรากฎว่าได้มีการตรวจพบผู้รับแลกเงินสด จะหักเงินค่าบริการตั้งแต่ร้อยละ 5 ถึง 10 บาท  นั่นหมายความว่า เงินที่รัฐโอนเข้าระบบ เป๋าตังค์ ให้ 1,000 บาท หากไปแลกเป็นเงินสดนั้น ผู้ที่ได้รับสิทธิ์จะได้เงินสด เพียง 900 ถึง 950 บาทเท่านั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สืบเนื่องจากกรณีดังกล่าวนั้น ทางข่าวช่องวัน ได้มีการไปสัมภาษณ์ นางลัดดา แซ่ลี้ รองโฆษกสำนักงานประกันสังคม ได้มีการยืนยันว่า สำหรับผู้ประกันตน มีความผิดทั้งทางอาญาและทางแพ่ง มีโทษทั้งจำคุกและเรียกเงินคืน หนักสุดถึงขั้นถูกตัดสิทธิ์เงินเยียวยาจากภาครัฐตลอดชีวิตเพราะถือเป็นการทุจริตเงินหลวง นอกจากนี้ยังไม่สามารถลงทะเบียนว่างงานเพื่อรับการช่วยเหลือเยียวได้ เพราะถือว่ามีการทุจริตจึงต้องให้ออกจากงาน เช่นเดียวกับผู้ประกอบการร้านค้า ที่รับแลกเงินสดมีความผิดทั้งแพ่งและอาญาเช่นกัน

โดยล่าสุดนั้นได้มีคณะกรรมการทำการตรวจสอบบุคคลที่ เปิดครับแลกเงินยาวจากภาครัฐที่มีการเผยแพร่ทาง Social Mediaรวมไปถึงผู้ประกันตนที่นำเงินจากโครงการม ม.33 เรารักกันไปแลกเป็นเงินสด ซึ่งยืนยันว่า ตรวจสอบไม่ยาก หากพบความผิดปกติ ที่เกิดขึ้นจากการกดโอนเงินจากแอพพลิเคชั่น"เป๋าตังค์"ของผู้ใช้สิทธิ์ ไปในแอพพลิเคชั่น"ถุงเงิน"ของร้านค้า แต่ละร้านผิดปกติจนน่าสังเกต ซึ่งระบบการโอนเงินของธนาคาร ก็จะแจ้งมาที่ส่วนกลาง เพื่อให้สำนักงานประกันสังคมแต่ละจังหวัด เข้าไปตรวจสอบดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด

สำนักงานประกันสังคมจึงอยากฝากเตือนผู้ประกันตน ว่าไม่อยากให้เกิดคดีดังกล่าวเพราะว่ามีโทษหนักและกระทบกับหน้าที่การงานในอนาคต พร้อมทำความเข้าใจกับผู้ที่ได้รับเงินเยียวยาว่าสาเหตุที่ไม่ได้รับเป็นเงินสด เพราะต้องการช่วยเหลือ ให้ครบทุกกลุ่มทั้งประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและร้านค้าผู้ประกอบการรายเล็กเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ

 

ข่าวเด่น

"ทนายอนันต์ชัย"พาสมาชิกสมาคมฮินดูฯ บุก ปค.ร้อง ปธ.-คกก.เก่าขวางเลือกตั้ง

"ทนายอนันต์ชัย"พาสมาชิกสมาคมฮินดูฯ บุก ปค.ร้อง ปธ.-คกก.เก่าขวางเลือกตั้ง

ทำไมคนไทยถึงชอบกิน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มากขนาดนี้

ทำไมคนไทยถึงชอบกิน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มากขนาดนี้

"ทนายเดชา" ฝากข้อความถึงคนที่ไม่ชอบตน งานนี้ชาวเน็ตแห่ถูกใจ

"ทนายเดชา" ฝากข้อความถึงคนที่ไม่ชอบตน งานนี้ชาวเน็ตแห่ถูกใจ

โปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อใหม่ เจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี

โปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อใหม่ เจ้าคุณพระสินีนาถ พิลาสกัลยาณี

"ปู มัณฑนา" เผยแจ้งความเอาผิดเกรียนคีย์บอร์ด ล็อตแรก 100 เคส

"ปู มัณฑนา" เผยแจ้งความเอาผิดเกรียนคีย์บอร์ด ล็อตแรก 100 เคส

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง