บอร์ด รถEV ไม่ได้ยกเลิกขาย รถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปในปี2035
รองโฆษกรัฐบาล ออกมาชี้เเจง บอร์ดนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าฯ กำหนดแนวทางส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า ดันไทยเป็นฐานผลิตรถไฟฟ้าโลก ตั้งเป้า ผลิตรถไฟฟ้า 50% ของรถในประเทศ ภายใน ปี2035ไม่ได้ยกเลิกขาย รถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป
กรณีทางเพจ KMUTT MOVE: Mobility & Vehicle Technology Research Center ได้มีรายงานเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมาคณะกรรมการนโยบายรถยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติได้มีการประชุมและพิจารณากำหนดวิสัยทัศน์และเป้าหมายส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า หรือรถEV รวมไปถึงมาตรการ ระยะเร่งด่วนขับเคลื่อนการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าดังต่อไปนี้
วิสัยทัศน์ : ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลก
เป้าหมาย : ภายในปี ค.ศ. 2035 : ผู้ขับขี่ยานยนต์สามารถจดทะเบียนยานยนต์ใหม่ ได้เฉพาะยานยนต์ไร้มลพิษ ZEV 100เปอร์เซนต์( Engine Ban)
โดยมีมาตรการเร่งด่วนดังนี้
1. มาตรการกระตุ้น การใช้รถ สองล้อ สาม ล้อ และสี่ล้อไฟฟ้า
2. มาตรฐาน และ ศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ -แผนพลังงาน และ การจัดตั้งสถานีอัด ประจุสาหรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์
3. จัดให้มีโครงการเช่ารถเมล์ ขับเคลื่อนด้วยพลังงาน ไฟฟ้า 2,511 คัน
ส่วนมาตรการในระยะ 1-5 ปี มีดังต่อไปนี้
1.ปรับโครงสร้างภาษี อาทิ ภาษีสรรพสามิต (เริ่มพ.ศ. 2569 หรือ ค.ศ.2026) และ ภาษีรถยนต์ประจำปี ตามหลักสากล “รถยิ่งเก่า ยิ่งต้องจ่าย แพง”
2. มีการบริหารจัดการซาก รถยนต์ แบตเตอรี่ และ Solar cell ใช้แล้ว
3. สร้างโครงสร้างพื้นฐาน (Eco System) เพื่อส่งเสริมการใช้ ZEV
4. จัดให้การพัฒนาบุคลากร เป็นต้น
ความคืบหน้าล่าสุดนั้น ทางเพจทวิตเตอร์ของ รัชดา ธนาดิเรก - รองโฆษกรัฐบาล ได้ออกมาชี้เเจงข้อเท็จจริงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน บอร์ดนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าฯ กำหนดแนวทางส่งเสริม รถไฟฟ้า โดยลดการใช้รถเครื่องยนต์สันดาป ดันไทยเป็นฐานผลิตรถไฟฟ้าโลก ตั้งเป้า ผลิตรถไฟฟ้า 50% ของรถในประเทศ ภายใน ปี2035 จำนวน 18.41 ล้านคัน และส่งเสริมใช้รถไฟฟ้า 15.58 ไม่ได้ยกเลิกขายรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป หรือ ยานยนต์เครื่องยนต์ ตามที่หลายๆคนเข้าใจก่อนหน้านี้
คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอรด์ อีวี) กำหนดทิศทางการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยการลดการใช้รถยนต์ที่่ใช้เครื่องยนต์สันดาปไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) และการเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลก เนื่องจากคาดการณ์ว่าในปี ค.ศ.2025 รถยนต์ไฟฟ้าจะมีราคาเทียบเท่ากับรถยนต์สันดาป โดยกำหนดเป้าหมายผลิตรถไฟฟ้า 50% ของรถในประเทศ ภายในปี 2035 ดังนี้
1)การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภทในปี 2025 รวม 1,055,000 คัน แบ่งเป็นรถยนต์/รถปิกอัพ 402,000 คัน
รถจักรยานยนต์ 622,000 คัน
รถบัส/รถบรรทุก 31,000 คัน
และในปี 2035 ใช้เพิ่มขึ้นรวม 15,580,000 คัน
แบ่งเป็นรถยนต์/รถปิกอัพ 6,400,000 คัน
รถจักรยานยนต์ 8,750,000 คัน
รถบัส/รถบรรทุก 430,000 คัน
2)การผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศในปี 2025 รวมทั้งสิ้น 1,051,000 คัน แบ่งเป็นรถยนต์/รถปิกอัพ 400,000 คัน
รถจักรยานยนต์ 620,000 คัน
รถบัส/รถบรรทุก 31,000 คัน
และในปี 2035 ผลิตเพิ่มขึ้นรวม 18,413,000 คัน แบ่งเป็น
รถยนต์/รถปิกอัพ 8,625,000 คัน
รถจักรยานยนต์ 9,330,000 คัน
รถบัส/รถบรรทุก 458,000 คัน
นอกจากนี้ ยังได้กำหนดมาตรการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ในระยะเร่งด่วนและระยะ 1-5 ปี เช่น 1)ส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าประเภทสองล้อ สามล้อ และสี่ล้อไฟฟ้า 2)จัดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้ารถยนต์และรถจักรยานยนต์ 3)ส่งเสริมการจัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานแบตเตอรี่และการจัดการซากแบตเตอรี่ทีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ไม่มีประกาศยกเลิกขายรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป
ขอบคุณ
รัชดา ธนาดิเรก - รองโฆษกรัฐบาล
KMUTT MOVE: Mobility & Vehicle Technology Research Center