ชุดเหยี่ยวดงแจง ดราม่าเจ้าก็อตซิลล่า สุดท้ายจบไม่สวยทัวร์ลงในไม่กี่นาที
ชุดเหยี่ยวดงแจงล่าสุด ดราม่าเจ้าก็อตซิลล่า สุดท้ายจบไม่สวยทัวร์ลงยับในไม่กี่นาที ชาวเน็ตยังคงเรียกร้องให้พิจารณาคืนเจ้าก็อตซิลล่าให้กับทางครอบครัวและหาทางออกร่วมกันที่ดีกว่านี้
ชุดเหยี่ยวดงโพสต์แจงล่าสุดกับกรณีดราม่าเจ้าก็อตซิลล่า ลิงแสมหนัก 20 กิโลกรัมที่ทางเจ้าหน้าที่กรมอุทยานไปรับตัวมาจากเจ้าของซึ่งเป็นพ่อค้าอยู่ในตลาดมีนบุรี โดยกระแสสังคมไม่เห็นด้วยและเรียกร้องให้คืนเจ้าก็อตซิลล่ากลับไปอยู่กับครอบครัว อีกทั้งทางเจ้าของเก่าเล่าว่าตอนแรกที่เก็บเจ้าก็อตซิลล่ามาได้ก็ได้ติดต่อไปทางหน่วยงานหนึ่งแต่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าให้เลี้ยงไว้เองได้เลย ครอบครัวของเขาจึงรับเลี้ยงเจ้าก็อตซิลล่ามาตั้งแต่วันนั้นเป็นเวลากว่า 3-4 ปี โดยทางชุดเหยี่ยวดงระบุว่า
ข้อเท็จจริง "กรณีลิงแสม"...เจ้าของลิง แจ้งว่าก่อนหน้านี้มีลิงแสมทั้งหมด 3 ตัว ถูกรถชนและสุนัขกัดตายไป 2 ตัว จึงเหลือเจ้า "ก็อตซิลล่า" เพียงตัวเดียว โดยขณะนั้นได้โทรประสานขอคำแนะนำหน่วยงานหนึ่งให้ไปรับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานนั้น ได้แนะนำว่าให้สามารถเลี้ยงดูได้ตามปกติ เจ้าของจึงเลี้ยงดูมาจนถึงปัจจุบัน (โดยไม่มีเอกสารได้มาอย่างถูกต้องของทางราชการ)
โดยความเป็นจริงนั้น หน่วยงานที่เจ้าของลิงแจ้งไป ไม่ใช่หน่วยงานของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม แต่อย่างใด จึงได้รับคำแนะนำที่ไม่ถูกต้อง
...ในส่วนของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีหมายเลขโทรศัพท์ที่คอยช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ในกรณีสัตว์ป่าพลัดหลงหรือได้รับบาดเจ็บ นั้นคือ สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่รับสายให้ความรู้ ความช่วยเหลือที่ถูกต้อง ตลอด 24 ชม.
ซึ่งในกรณีนี้เมื่อประชาชนพบสัตว์ป่าพลัดหลงหรือได้รับบาดเจ็บ หากได้ให้ความช่วยเหลือหรือจับไว้ได้แล้ว จะต้องนำสัตว์ป่านั้นไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจในท้องที่นั้น เพื่อแสดงเจตนาความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้ต้องการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองนั้นไว้ เนื่องจากตามกฎหมาย ผู้ไม่ได้รับอนุญาตจะไม่สามารถครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองได้ และโทรศัพท์แจ้งสายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 ให้เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯออกไปรับมาดูแล ในการรับสัตว์ป่าพลัดหลงหรือได้รับบาดเจ็บนั้นกรมอุทยานฯจะมีทีมงานนำโดยสัตวแพทย์พร้อมอุปกรณ์ของกรมไปดำเนินการรับ หรือหากประชาชนสะดวกก็สามารถนำมาส่งได้ที่กรมอุทยานฯได้เช่นกัน
....อนึ่ง ลิงแสม จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง (ชนิดสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม) ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2562 ลิงแสมชอบอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง ชอบกินปู ปลา หอย แมลง และพืช ผักผลไม้ต่างๆ เป็นอาหาร สามารถว่ายน้ำและดำน้ำเก่ง ออกหากินตอนกลางวัน ซึ่งจะพบเห็นได้ตามป่าชายเลนและริมฝั่งทะเล ลิงแสมพยายามจะปรับตัวให้สามารถอยู่ในพื้นที่บริเวณขอบนอกของป่า มากกว่าอยู่ในป่าลึก และสามารถปรับตัวในเข้ากับมนุษย์ได้ในบางโอกาส ดั่งที่มักพบเห็นทั่วไปตามเมืองใหญ่ อาทิ ศาลพระกาฬ อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี หรือ ศาลเจ้าแม่เขาสามมุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เป็นต้น ซึ่งหน่วยงานในพื้นที่ของกรมอุทยานฯได้ดูแลตามปกติอยู่แล้ว
**กรณีเจ้าก็อตซิลล่า เกิดจากสื่อต่างประเทศและสื่อของไทยลงข่าว จึงเป็นความรับผิดชอบของกรมอุทยาน แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯจึงต้องเดินทางไปตรวจสอบดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายและดูแลเรื่องสุขภาพของสัตว์**
ทว่าหลังจากทางเพจได้โพสต์ชี้แจงแล้วกลับถูกชาวเน็ตรุมถล่มยับ ดังนี้
"หน่วยงานที่เจ้าของลิงแจ้งไป ไม่ใช่หน่วยงานของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม แต่อย่างใด จึงได้รับคำแนะนำที่ไม่ถูกต้อง >> แสดงว่ารู้ว่าหน่วยงานไหนที่ให้คำแนะนำผิดๆ รบกวนระบุทีครับ แลขอให้เอาผิดวินัยด้วยครับ จะได้ไม่มีผู้โชคร้ายจากหน่วยงานที่ทำงานมักง่ายแบบนี้อีก"
"หน่วยงานนั้นที่คุณลุงเจ้าของเขาติดต่อไป มันหน่วยงานไหนกันคะเนี่ย ทำไมหน่วยงานถึงไม่ประสานงานกัน แล้วยังจะให้ข้อมูลผิดๆอีก บอกปัดความรับผิดชอบให้เลี้ยงๆไป แล้วสรุปผิดกฏหมาย เอวัง
คุณลุงอาจจะพลาดที่ไม่ได้หาข้อมูลว่าลิงแสมเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าคุ้มครอง เห็นเต็มเขาสามมุก เต็มศาลพระกาฬไปหมด ในเมื่อคุณลุงเขาติดต่อไปแล้ว หน่วยงานก็ควรจะต้องประสานงานกันรึเปล่าหว่า"