กองปราบรวบสาวแสบหลอกขายนาฬิกาหรูกับเครื่องมือแพทย์
กองปราบรวบสาวแสบหลอกขายนาฬิกาหรูกับเครื่องมือแพทย์ เหยื่อเจ็บใจอุดหนุนหวังช่วยบุคลากรทางการแพทย์แต่กลับถูกต้มเมื่อของไปถึงพบว่าไม่ใช่หน้ากากและชุด PPE แต่กลับเป็นข้าวสารและน้ำมันมะพร้าว
วันที่ 31 มี.ค.2564 กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม, พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์, พ.ต.ท.พงศกร ตันอารีย์, พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ เตชะพันธ์ รอง ผกก.3 บก.ป., พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.2 บก.ปปป. ปฏิบัติราชการ รอง ผกก.3 บก.ป. , พ.ต.ต.สรศักดิ์ แสงจันทร์ สว.กก.3 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 2 กก.3 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม น.ส.ไพลิน (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ
1.หมายจับศาลแขวงนนทบุรี ที่ 243/2563 ลงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ข้อหา “ฉ้อโกง”
2.หมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ 750/2563 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2563 ข้อหา “ฉ้อโกง”
จับกุม ได้ภายใน ซ.ศรีนครินทร์ 46/1 ถ.ศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม.
สืบเนื่องจากเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2563 น.ส.ไพลินฯ (ผู้ต้องหา) ได้หลอกขายนาฬิกาหรูให้กับผู้เสียหายในราคา 800,000 บาท โดยจะให้ผู้เสียหายมัดจำค่าสินค้าดังกล่าวก่อน เป็นเงินจำนวน 200,000 บาท ต่อมาเมื่อผู้เสียหายได้รับสินค้าตามที่ตกลงกันไว้ ทางผู้เสียหายเกิดความสงสัยว่านาฬิกาดังกล่าวน่าจะเป็นของปลอม จึงนำนาฬิกาหรูดังกล่าวไปตรวจสอบและพบว่าเป็นของปลอม ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่ สภ.ปากเกร็ด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนพบว่า เมื่อช่วงประมาณเดือน เมษายน 2563 มีผู้เสียหายเข้ามาร้องเรียนที่กองบังคับการปราบปราม ว่าถูกผู้ต้องหารายนี้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “ดร.ไพลิน” ซึ่งมีโปรไฟล์ที่มีความน่าเชื่อถือ มีการทำรายการผ่านทางยูทูป (https://youtu.be/0CT1bau65w8) ถ่ายรูปคู่กับดาราโพสต์จำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ จำหน่ายหน้ากากอนามัยกว่า 1,000,000 ชุด และโพสต์ขายชุด PPE ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเมื่อมีผู้เสียหายหลงเชื่อ ติดต่อไปสอบถามรายละเอียดสินค้าต่างๆ ผู้ต้องหาจะส่งภาพกลับมายืนยันให้ทางผู้เสียหายดูว่ามีสินค้าจำนวนมากอยู่ในโกดัง จึงทำให้ผู้เสียหายและกลุ่มเพื่อนที่มีความตั้งใจอยากจัดหาชุด PPE ไปมอบให้กับบุคคลกรทางการแพทย์ในพื้นที่ภาคอีสานและภาคใต้ สั่งซื้อชุด PPE กับผู้ต้องหา จำนวน 850 ชุด โอนเงินให้กับ ผู้ต้องหาเป็นเงินจำนวน 280,500 บาท โดยผู้เสียหายให้ผู้ต้องหาจัดส่งสินค้าชุดแรกจำนวน 400 ชุด ไปมอบให้บุคคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และจังหวัดอื่นๆ ทางภาคใต้
แต่เมื่อสินค้าไปถึงปลายทาง ผู้เสียหายตรวจสอบพบว่าสินค้าภายในเป็นถุงข้าวและน้ำมันมะพร้าว ไม่ใช่สินค้าตามที่ตกลงกันไว้ ผู้เสียหายจึงติดต่อไปยังผู้ต้องหาให้ชดใช้ค่าเสียหาย และทวงถามเงินค่าชุด PPE ที่เหลืออีก 450 ชุด แต่ผู้ต้องหากลับบ่ายเบี่ยงอ้างติดปัญหาหลายอย่าง ก่อนจะติดต่อไม่ได้ จึงทำให้ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกโกง จึงได้เข้ามาร้องเรียนที่กองบังคับการปราบปราม
กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการสืบทราบว่าหลังก่อเหตุ น.ส.ไพลินฯ ได้หลบหนีไปในหลายพื้นที่ และได้มาพักอาศัยอยู่ที่บริเวณ บ้านเช่า ย่านศรีนครินทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ เมื่อพบผู้ต้องหา จึงทำการจับกุม และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น น.ส.ไพลินฯ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา