บรรรยากาศ พิธีรดน้ำหลวงฯพระราชทาน 3 ฮีโร นักดับเพลิง จากเหตุเพลิงไหม้กฤษฎานคร31
ภาพบรรรยากาศ พิธีรดน้ำหลวงอาบศพพระราชทาน วางพวงมาลาพระราชทาน และประกอบพิธีบรรจุร่างฮีโร่ทั้ง 3 ราย จากเหตุเพลิงไหม้กฤษฎานคร31 ลงหีบศพ โดยศพในพระบรมราชานุเคราะห์นั้นจะตั้งสวดพระพิธีธรรมที่วัดเป็นเวลา 7 คืนเริ่มตั้งแต่ 19.00 น.ของทุกวัน
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 4 เม.ย. ที่วัดศาลาแดง พล.อ.ท.ภักดี แสง-ชูโต รองเลขาธิการพระราชวัง และ ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีรดน้ำหลวงอาบศพพระราชทาน วางพวงมาลาพระราชทาน และประกอบพิธีบรรจุร่างฮีโร่ทั้ง 3 ราย จากเหตุเพลิงไหม้กฤษฎานคร31 ลงหีบศพ โดยศพในพระบรมราชานุเคราะห์นั้นจะตั้งสวดพระพิธีธรรมที่วัดเป็นเวลา 7 คืนเริ่มตั้งแต่ 19.00 น.ของทุกวัน จากนั้นมีกำหนดการพระราชทานเพลิงศพเวลา 16.00 น. ในวันเสาร์ที่ 10 เม.ย.64
ทั้งนี้ พล.อ.ท.ภักดี ได้พูดคุยกับญาติของผู้เสียชีวิตและมอบหมายให้ นายพรเลิศ เพ็ญพาส ผู้อำนวยการเขตทวีวัฒนา ดำเนินการประสานกับทางสำนักพระราชวังหากพบว่าทางครอบครัวผู้เสียชีวิตต้องการความช่วยเหลืออนุเคราะห์ใดๆ นอกจากนี้ พล.อ.ท.ภักดี ยังได้มอบกระเช้าพระราชทานและพบปะพูดคุยกับผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 1 ราย ซึ่งเกิดอุบัติเหตุที่ขาทั้ง 2 ข้าง ระหว่างเข้าควบคุมสถานการณ์จากเหตุการณ์เดียวกันโดยแพทย์อนุญาตให้เดินทางกลับจากโรงพยาบาลมารดน้ำศพเพื่อนสร้างความปลาบปลื้มใจเป็นอย่างยิ่ง สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 5 ราย แบ่งเป็นอาสาสมัคร 4 ราย และผู้พักอาศัยในอาคาร 1 ราย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 6 ราย ซึ่งทั้งหมดนั้นได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งสิ้น
ขณะที่นางนิตยา โกยทอง ภรรยาของนายสมัญญา หนึ่งในฮีโร่ที่เสียชีวิต เปิดเผยว่า รู้สึกภูมิใจมากที่สามีได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และได้รับพระราชทานพวงมาลาจากทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระราชินี และเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ทั้งยังทรงรับศพของทั้ง 3 คนไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ 7 วัน ถือว่าเป็นเกียรติสูงสุดของครอบครัว แม้ว่าจะยังคงเสียใจอยู่กับการเสียชีวิต แต่ก็ยังมีความรู้สึกดีใจปลื้มใจที่ได้รับเกียรตินี้ เพราะสามีได้ตายในหน้าที่ ส่วนกรณีที่มีหลายคนวิพากษ์วิจารณ์ว่า ผู้เสียชีวิตปฏิบัติงานด้วยความประมาทไม่ระมัดระวัง ไม่ดูตัวเองก่อนที่จะเข้าไปช่วยเหลือผู้อื่น จนต้องเสียชีวิต ยืนยันว่าผู้ปฏิบัติทุกนายต้องระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่อยู่แล้ว คนที่ท้วงติงอาจไม่มีความรู้ ที่สำคัญคงไม่มีใครอยากเสียชีวิตจากการเสี่ยงภัยไปช่วยคนอื่นและไม่มีใครล่วงรู้เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้า