"เชียงใหม่"คุมเข้ม ประกาศพื้นที่เขตป้องกันโรค ห้ามจำหน่าย-ดื่มแอลกอฮอล์10-20เม.ย.
คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ กำหนดให้พื้นที่คูเมืองเชียงใหม่ชั้นนอกและชั้นใน และลานอเนกประสงค์ช่วงประตูท่าแพเป็น เขตป้องกันโรค ห้ามจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ลงนามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกัน 3 ฉบับ โดยล่าสุดคือ คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่24/2564 เรื่อง กำหนดให้พื้นที่คูเมืองเชียงใหม่ขั้นนอกและขึ้นใน และลานอเนกประสงค์ ข่วงประตูท่าแพเป็นเขตป้องกันโรค ในเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2564 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 10เมษายน 2564ถึงวันที่20 เมษายน 2564
โดยเพจสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เผยแพร่ประกาศ คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ กำหนดให้พื้นที่คูเมืองเชียงใหม่ชั้นนอกและชั้นใน และลานอเนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพเป็น เขตป้องกันโรค
ห้ามจำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตั้งแต่วันที่ 10-20 เม.ย.64 ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมกับ มาตรการมาตรการป้องกันและควบคุมโรคในเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี พ ศ. 2564 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ อาทิ ห้ามการรวมกลุ่มสาดน้ำ รวมถึงการใช้ยานพาหนะบรรทุกคน และภาชนะบรรจุน้ำเล่นสาดน้ำ การจัดคอนเสิร์ต หรือการแสดงดนตรี ซึ่งอาจจะทำให้เกิดภาวะไร้ระเบียบของผู้เข้าชม เช่น การเต้น การตะโกนร้องเพลง รวมทั้งห้ามกิจกรรมที่มีการสัมผัสใกล้ชิดกัน เช่น การเล่นประแป้ง การเล่นปาร์ตี้โฟม เป็นต้น
โดยเมื่อวันที่ 5 เม.ย. 64 เวลา 15.30 น. ที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจจังหวัดเชียงใหม่ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ โดย นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และ นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แถลงข่าวผ่านสื่อมวลชนถึงสถานการณ์โรคโควิด -19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยนายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แจงว่า วันนี้จังหวัดเชียงใหม่ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด-19 จำนวน 4 ราย เบื้องต้นคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่มีมติให้มีการยกระดับการควบคุม ป้องกันโรคเพิ่มขึ้น อาทิ การจัดขบวนแห่ อนุญาตให้เฉพาะวัฒนธรรมจังหวัด ดำเนินงาน คนร่วมขบวนไม่เกิน 200 นอกนั้นไม่อนุญาต ผู้ร่วมงาน ผู้ชมต้องสวมหน้ากาก 100%
“สำหรับสถานบริการ และสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้าย และร้านอาหารที่มีการจำหน่ายสุรา ให้เปิดจำหน่าย และบริโภคสุรา ได้ไม่เกิน 23.00 น. โดยให้มีผลตั้งแต่ วันที่ 6 - 30 เม.ย. 64 พร้อมกันนี้มีการประกาศพื้นที่สี่เหลี่ยมรอบคูเมืองให้เป็นพื้นที่ควบคุมการแพร่ระบาดโรค COVID-19 ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด รวมถึงสถานประกอบการ สถานบริการต้องปรับปรุงเรื่องระบบระบายอากาศ พร้อมกันนี้ได้แจ้งให้ ศปก.ทุกระดับ ออกตรวจสถานที่เสี่ยงหากพบว่าไม่มีมาตรการป้องกันโรค ให้เสนอคณะกรรมการโรคติดต่อ เพื่อพิจารณาสั่งปิดสถานที่ดังกล่าว” รอง ผวจ.เชียงใหม่ กล่าว
ด้าน นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แจงว่า การพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 รายใหม่ ของจังหวัดเชียงใหม่ ทั้ง 4 ราย เป็นผู้ที่มีประวัติเดินทางไปยังสถานบันเทิงในย่านรัชดา กรุงเทพฯและนนทบุรี ที่พบการระบาดของโรคโควิด-19 ตามที่ทางกรมควบคุมโรคได้ประกาศ
โดยผู้ป่วยรายที่ 1 เป็นชายไทย อายุ 34 ปี ภูมิลำเนาอำเภอเมืองเชียงใหม่ ประกอบธุรกิจส่วนตัว ประวัติเดินทางไปสถานบันเทิงย่านรัชดา กทม. เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2564 พร้อมกับเพื่อน 4 คน ก่อนจะแยกตัวเดินทางกลับมาจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ป่วยรายนี้ได้เดินทาง โดยเที่ยวบิน VZ2104(สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่)
วันที่ 31 มีนาคม 2564 เวลา 17.30 น. ที่นั่ง 19F เข้าพักที่บ้านพักส่วนตัว และในวันที่ 1 มีนาคม ได้รับข่าวการระบาดที่สถานบันเทิงในกรุงเทพฯ จึงได้แยกกักตัวเอง ต่อมาจึงเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในวันที่ 4 เมษายน 2564 มีอาการไข้ ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก ผลยืนยันพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข้ารักษาตัวที่ห้องแยกความดันลบ โรงพยาบาลนครพิงค์
ผู้ป่วยรายที่ 2 เป็นชายไทย อายุ 26 ปี ภูมิลำเนาอำเภอเมืองเชียงใหม่ ประกอบธุรกิจส่วนตัว ประวัติเดินทางไปสถานบันเทิงย่านรัชดา กทม. พร้อมกับผู้ป่วยรายที่ 1 และได้เดินทางกลับเชียงใหม่ โดยรถยนต์ส่วนตัว พร้อมเพื่อนอีก 3 คนที่ไปเที่ยวในสถานบันเทิงเดียวกัน เมื่อเดินทางมาถึงเชียงใหม่ ในวันที่ 1-2 เมษายน ได้รับข่าวการระบาดในสถานบันเทิง กทม. จึงได้แยกกักตัวในห้องพักส่วนตัวเพียงคนเดียว และเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในวันที่ 4 เมษายน ไม่มีอาการ ผลยืนยันพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข้ารักษาตัวที่ห้องแยกความดันลบ โรงพยาบาลนครพิงค์
ผู้ป่วยรายที่ 3 ชายไทย อายุ 34 ปี ภูมิลำเนาอำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้ร่วมเดินทางกับผู้ป่วยรายที่ 2 เดินทางไปและกลับด้วยรถยนต์ส่วนตัวพร้อมกัน หลังจากกลับมาถึงเชียงใหม่ได้พักในบ้านพักส่วนตัวกับแฟนสาว และในวันที่ 4 เมษายน เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ไม่มีอาการ ผลตรวจยืนยัน เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2564 พบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข้ารักษาตัวที่ห้องแยกความดันลบ โรงพยาบาลนครพิงค์ สำหรับเพื่อนอีก 2 คนที่เดินทางไปด้วยกัน ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ผลตรวจยืนยันไม่พบเชื้อ
“ทีมสอบสวนโรคสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรค ค้นหาผู้สัมผัส พบผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง 32 ราย(ผู้สัมผัสในครอบครัว 6 ราย , ผู้สัมผัสในชุมชน 3 ราย) และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 99 ราย(ผู้สัมผัสบนเครื่องบิน) รวม 131 ราย ทางทีมสอบสวนโรคได้ติดตามและนัดตรวจหาเชื้อในบ่ายวันนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจ” นพ.สสจ.เชียงใหม่ กล่าว
นพ.จตุชัยฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ป่วยรายที่ 4 ชาย สัญชาติจีน อายุ 28 ปี อาศัยในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีประวัติเดินทางไปท่องเที่ยวในจังหวัดนนทบุรี เป็นเวลา 7 วัน หลังเดินทางกลับเชียงใหม่ โดยมีไทม์ไลน์ ดังนี้
วันที่ 1 เมษายน 2564 ด้วยเที่ยวบินที่ FD 4116 (สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่) เวลา 18.20 น. เข้าพักบ้านพักส่วนตัวกับภรรยา ช่วงเย็นเดินทางไปรับประทานอาหารปิ้งย่าง
วันที่ 2 เมษายน 2564 เดินทางไปรับประทานอาหารใกล้สนามบิน และทานอาหารเย็นที่ตลาดทิพย์เนตร
วันที่ 3 เมษายน 2564 เดินทางไปเซ็นทรัลเฟสติวัล ตลาดทิพย์เนตร กาดมณี
วันที่ 4 เมษายน 2564 เดินทางไปรับประทานอาหารใกล้สนามบิน และเริ่มมีอาการไข้ต่ำๆ ไอ เจ็บคอ ไม่มีน้ำมูก จมูกได้กลิ่น จึงได้เข้าขอรับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่
วันที่ 5 เมษายน 2564 ผลตรวจยืนยันพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนโรคและค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดเพิ่มเติม
นายแพทย์จตุชัย กล่าวอีกว่า การพบผู้ป่วยโควิด-19 ทั้ง 4 รายนี้ เป็นการนำเชื้อเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้ยังไม่พบการระบาดในจังหวัดเชียงใหม่ อย่างไรก็ตามจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการยกระดับมาตรการของจังหวัดในระดับสูงสุด เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชนร่วมมือกันป้องกันตนเอง และปฏิบัติตนตามมาตรการต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด สำหรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ ให้ทำปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันควบคุมโรคของจังหวัดเชียงใหม่อย่างเคร่งครัด
ขอบคุณ
ประชาสัมพันธ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่