ผู้ว่าฯสมุทรสาคร กลับมาลุยทำงานวันแรก เตรียมนำทีมสู้โควิดระลอกใหม่
นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กลับมาทำงานวันแรก เตรียมนำทีมสู้โควิดระลอกใหม่ พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจคนไทยทั้งประเทศ ไม่อยากจะเชื่อจะมีชีวิตรอดกลับมาตรงนี้ได้อีกครั้ง
เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 64 นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นางชุติพร วิจิตร์แสงศรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร ได้เดินทางกลับมาบริหารงานที่จังหวัดสมุทรสาคร อย่างเป็นทางการ หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลศิริราชแล้วได้กลับพักฟื้นรักษาสุขภาพที่บ้านพักในจังหวัดอ่างทอง นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 มี.ค.64 เป็นต้นมา
สำหรับการเดินทางก็มาแบบเป็นการส่วนตัว ไม่ได้มีพิธีการต้อนรับแต่อย่างใดทั้งสิ้น เมื่อมาถึงที่ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้แวะทักทายกับเจ้าหน้าที่ อส.ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัด จากนั้นก็เข้าไปตรวจงานในห้องทำงานของผู้ว่าฯ ต่อมาก็ได้มีการเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่ออกจากรพ.แล้ว ได้ปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่องแต่เป็นในรูปแบบของ Work From Home และได้ติดตามข่าวสารของจ.สมุทรสาครมาตลอด ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 สัปดาห์ ก็ตั้งใจจะกลับมาทำงานที่จ.สมุทรสาคร แต่หมอทราบข่าวเสียก่อนเลยรีบสั่งห้ามไว้
โดยสิ่งที่หนักใจคือเรื่องที่ชาวสมุทรสาครเป็นกังวลเรื่องสีที่เคยเป็นสีแดงและลงมาเป็นสีส้มแล้วถูกปรับให้เป็นสีแดงอีก อยากจะบอกว่าให้ทำความเข้าใจกันว่าขณะนี้มีเพียง 2 สี คือสีแดงกับสีส้ม ซึ่งก็ไม่ต่างกันนักจึงอยากให้ชาวสมุทรสาครเข้าใจเรื่องนี้ตรงกันก่อนว่าสีไหนก็ไม่สำคัญ แต่ต้องช่วยกันทุกภาคส่วนในการให้ความร่วมมือ ซึ่งจะต้องผ่านไปให้ได้ร่วมกันกันทั้งประเทศ ส่วนความพร้อมที่จะกลับมานำทีมบริหารเพื่อสู้กับโควิดอีกครั้งนั้น วันนี้ตนคิดว่าพร้อมสู้แล้ว แต่ก็ต้องแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะวันนี้เราไม่ได้ทำงานอยู่เพียงลำพัง เรามีทีมงานที่คอยช่วยเหลือกัน ทั้งรองผู้ว่าฯ และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ที่จะต้องคอยประคับประคองช่วยกันให้งานเป็นไปตามที่วางแผนไว้
สำหรับสถานการณ์โควิดในสมุทรสาครวันนี้ดีกว่าในวันนั้นมาก ก่อนเข้ารพ.มีคนติดเชื้อโควิดแต่ละวันเพิ่มจากหลักสิบเป็นหลักร้อย จนกระทั่งมียอดรวมเป็นหลักหมื่น แต่วันนี้ผู้ติดเชื้อรายวันมีแค่หลักสิบและส่วนใหญ่ก็เป็นคนต่างจังหวัด วันนี้สามารถพูดได้อีกอย่างหนึ่งว่า สมุทรสาครเป็นโมเดล ที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศเห็นว่า เราสามารถต่อสู้เอาชนะสถานการณ์โควิด จากที่เคยมีผู้ติดเชื้อค่อนข้างมาก จนวันนี้เหลือน้อยลง จนกระทั่งเกือบจะไม่มีเลย เพราะฉะนั้นวันนี้สถานการณ์สมุทรสาครดีขึ้นมากจริงๆ และโรงพยาบาลสนามถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะเป็นจุดที่สามารถแยกผู้ติดเชื้อออกมาจากคนปกติ ถ้าไม่มีโรงพยาบาลสนามจะทำให้มีการปะปนกันจนแยกไม่ออก และที่ผ่านมาที่สมุทรสาครสามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อที่มีเป็นจำนวนมากจากหลักหมื่นให้มาสู่จำนวนหลักสิบได้ถือว่าโรงพยาบาลสนามมีส่วนสำคัญที่สุดเป็นเป็นหัวใจหลักในการแก้ปัญหาโควิด-19
นอกจากนี้ นายวีระศักดิ์ ยังได้กล่าวขอบคุณพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ สำหรับกำลังใจที่ส่งไปให้ขณะที่เข้ารับการรักษาตัวในรพ. เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการสู้กับโรคโควิด 19 นั้นก็คือ “กำลังใจ” ซึ่งที่ผ่านมาตนยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่า จะสามารถมีชีวิตรอดกลับมาตรงนี้ได้อีกครั้ง แต่เพราะได้สิ่งสำคัญที่สุดมาช่วยพยุงนั่นก็คือ กำลังใจ ที่แม้จะเป็นนามธรรมจับต้องไม่ได้แต่ก็เป็นสิ่งที่มีคุณค่ามหาศาล ฉะนั้นกำลังใจที่แต่ละคนมอบให้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการต่อสู้กับสถานการณ์โควิดในปัจจุบันนี้