ประเทศรายได้ต่ำสุด ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เพียงแค่ 1% ของ 100 ล้านโดส
เจ้าหน้าที่องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในกลุ่มประเทศรายได้ต่ำที่สุดเพียงร้อยละ 1 ของวัคซีน 100 ล้านโดส ขณะองค์การฯ เดินหน้าทำงานร่วมกับกลุ่มผู้ผลิตวัคซีนเพื่อขยายการผลิตทั่วโลก
บรูซ ไอล์วาร์ด ที่ปรึกษาอาวุโสด้านการเปลี่ยนแปลงองค์การของผู้อำนวยการองค์การฯ แถลงข่าวว่ามีวัคซีนโควิด-19 เกือบ 99 ล้านโดส ถูกฉีดในกลุ่มประเทศรายได้สูงและรายได้ปานกลางค่อนข้างสูง และประเทศรายได้ต่ำ-ปานกลางบางประเทศ แต่มีวัคซีนเพียงร้อยละ 1 ของจำนวนดังกล่าว ที่ถูกฉีดในกลุ่มประเทศรายได้ต่ำที่สุด
เมื่อถูกถามว่าควรมีการผลิตวัคซีนเพิ่มหรือไม่ ไอล์วาร์ดกล่าวว่า “เราจำเป็นต้องใคร่ครวญอย่างละเอียดว่าเราสามารถผลิตวัคซีนเพิ่มได้ง่าย” แต่ “วัคซีนที่ถูกผลิตขึ้นมากลับกำลังถูกจัดสรรไปผิดที่ผิดทาง”
ปัจจุบันองค์การฯ กำลังทำงานร่วมกับบรรดาผู้ผลิตเพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถผลิตวัคซีนให้โครงการโคแวกซ์ (COVAX Facility) ซึ่งนำโดยองค์การฯ เพื่อแจกจ่ายวัคซีนแก่กลุ่มประเทศรายได้ต่ำ-ปานกลาง
ไอล์วาร์ดกล่าวว่าจะ “ใช้เวลาหลายสัปดาห์และหลายเดือน” ในการเพิ่มปริมาณวัคซีน โดยระหว่างนี้เราต้องตัดสินใจเรื่องเร่งด่วนและสำคัญบางเรื่องที่เกี่ยวกับวิธีใช้วัคซีนที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน
ด้านโสมญา สวามินาธาน หัวหน้าคณะนักวิทยาศาสตร์ขององค์การฯ กล่าวว่า “ความจำเป็นเร่งด่วน” ของโครงการโคแวกซ์ คือการเพิ่มปริมาณวัคซีนด้วยการทำงานร่วมกับบรรดาผู้ผลิตและผู้จัดหา เพื่อขจัด “สิ่งกีดขวางและอุปสรรค” รวมถึงรับรองว่าคำสั่งห้ามส่งออก “จะไม่ขัดขวางกระบวนการผลิตวัคซีน”
ที่มา xinhuathai