สาวไทยในอเมริกา พาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่นโดนทำร้ายเจ็บ-แมวดับ

เป็นเรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ เมื่อมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นหญิงไทยที่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา พาน้องแมวชื่อ "พอนซุ" พร้อมด้วยสุนัขและนก ไปเดินเล่น แต่กลับถูกเด็กชาวต่างชาติเข้ามาทำร้ายร่างกายเธอกับแฟน อีกทั้งครอบครัวเด็กยังมาทำร้ายเจ้าของพร้อมสัตว์เลี้ยงอีก 2 ตัว ที่แย่ที่สุดคือตำรวจไม่ช่วยอะไรเลยทั้งๆ ที่มีทั้งพยานและคลิป คดีไม่มีความคืบหน้าแม้ผ่านมานานกว่า 2 สัปดาห์

โดยเรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อ คุณรุ้ง (เจ้าของสัตว์เลี้ยง) ได้พาครอบครัวออกไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะแถวบ้าน พร้อมเหล่าสัตว์เลี้ยง มีน้องแมว 2 ตัว, นกแก้ว 1 ตัว และสุนัข 1 ตัว เธอได้ใช้สายจูงสุนัขกับเจ้าพอนซุ แต่จู่ๆมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาดึงสายจูงของเจ้าพอนซุ ทำให้แมวถูกแรงกระชากปลิวขึ้นไปบนอากาศแล้วตกลงกระแทกที่พื้นอย่างแรง เจ้าพอนซุตะเกียดตะกายอยู่บนพื้น คุณรุ้งรีบหันกลับไปมองเด็กคนนั้นทันที แทนที่เขาจะหยุดแต่เด็กคนนี้ดันกลับวิ่งลากเอาสายจูงแมวติดตัวไปด้วยอีก 3-4 ก้าว เจ้าพอนซุพยายามดิ้นกระชากตัวเองออกจากสายจูงจนหลุด แล้ววิ่งหนีไปด้วยความตื่นตกใจสุดขีด ทำให้โรคหัวใจของพอนซุที่เป็นอยู่ได้กำเริบขึ้นทันที

คุณรุ้งพยายามปลอบและสังเกตเห็นเลือดที่ขาขวาหลังของเจ้าพอนซุ พอตรวจดูพบว่าเล็บของแมวหลุดออกไปหมดทั้ง 5 นิ้ว คงเพราะแรงกระชากที่เด็กคนนั้นวิ่งไป เธอหันกลับไปตะโกนใส่เด็กคนนั้นว่า "เธอเพิ่งทำอะไรลงไปรู้ไหม" เด็กคนนั้นจึงรีบวิ่งกลับไปหาครอบครัวที่เดินตามหลังมาทันที ก่อนที่แม่ของเด็กจะตอบกลับมาว่า "เธอนั่นแหละที่ผิด ใครเขาเอาแมวออกมาเดินเล่นกัน"

ขณะที่ด้านแฟนของคุณรุ้งพยายามอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่อีกฝ่ายกลับไม่สนใจ แถมยังมีชายวัยรุ่นอีกหนึ่งคนเดินมาต่อยนกแก้ว และดึงหางของสุนัขจนตัวลอย ทำให้เหตุการณ์รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และมีการทำร้ายร่างกาย คุณรุ้งโดนรุมทำร้าย ส่วนแฟนของคุณรุ้งที่พยายามเข้ามาห้ามก็โดนต่อยหน้าจนจมูกหักทันที

ทั้งนี้ เรื่องราวยุติลงหลังจากชายผิวสี 2 คนได้เข้ามาช่วยเหลือ แต่ครอบครัวของเด็กหนีไปก่อนที่ตำรวจจะมา เรื่องที่เกิดขึ้นมีคนถ่ายคลิปไว้ได้ ด้านตำรวจรับเรื่องไว้ โดยทีการสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์พร้อมรับวิดีโอที่มีพลเมืองถ่ายไว้ได้ แต่ผ่านมานานกว่า 2 สัปดาห์แล้วคดีกลับไม่คืบหน้า และมีการเปลี่ยนมือนักสืบไปเรื่อย ๆ ถึง 3 คน เมื่อเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์หลายคนมองว่าครอบครัวของคุณรุ้งและเจ้าพอนสึไม่ได้รับความยุติธรรมจึงตั้งแฮชแท็ก #Justiceforponzu ขึ้น และยังมองว่าเรื่องนี้อาจเกี่ยวข้องกับกระแสการทำร้ายร่างกายคนเอเชียอีกด้วย