คู่แฝดเกาหลี เจอหน้ากันครั้งแรกในรอบ 36 ปี หลังไม่รู้ว่าตัวเองมีแฝด
คู่แฝดหญิงจากเกาหลีใต้ ได้ถูกพรากจากกันตั้งแต่ยังเป็นทารก ทำให้พวกเธอเติบโตขึ้นมาโดยไม่รู้ถึงการมีอยู่ของกันและกัน กระทั่งวันหนึ่งโชคชะตาพาให้ทั้งคู่ได้เจอหน้ากันเป็นครั้งแรกในรอบ 36 ปี
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสุดตื้นตันและต้องขอแสดงความยินดีด้วยอย่างยิ่ง เมื่อเว็บไซต์ต่างประเทศรายงานว่า คู่แฝดหญิงจากเกาหลีใต้ ได้ถูกพรากจากกันตั้งแต่ยังเป็นทารก ก่อนจะถูกส่งต่อให้แก่ครอบครัวชาวอเมริกัน 2 ครอบครัว ทำให้พวกเธอเติบโตขึ้นมาโดยไม่รู้ถึงการมีอยู่ของกันและกัน กระทั่งวันหนึ่งโชคชะตาพาให้ทั้งคู่ได้เจอหน้ากันเป็นครั้งแรกในรอบ 36 ปี
มอลลี่ ซิเนิร์ต และ เอมิลี่ บุชเนล เป็นหนูน้อยคู่แฝดที่เกิดมาในประเทศเกาหลีใต้ แต่ด้วยเหตุผลที่ไม่แน่ชัดทำให้เธอถูกแยกจากกันตั้งแต่อายุเพียงไม่กี่เดือน และถูกนำเข้าสู่ระบบอุปถัมภ์
กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ อิซาเบล ลูกสาววัย 11 ขวบของบุชเนล เกิดอยากรู้เรื่องราวความเป็นมาของผู้เป็นแม่ และอยากรู้ว่าตัวเองจะมีญาติฝั่งแม่เพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ จึงอยากให้แม่ลองตรวจดีเอ็นเอดู
แม้ว่าบุชเนลจะไม่ได้กระตือรือร้นในการตรวจดีเอ็นเอ แต่เธอก็ไม่ขัดความต้องการของลูกสาว สุดบังเอิญที่ขณะนั้น ซิเนิร์ตก็ตัดสินใจที่จะทำการตรวจดีเอ็นเอเช่นกัน และแล้วในที่สุดผลการตรวจดีเอ็นเอก็ออกมา ลูกสาวของคู่แฝดต่างก็ได้รับผลการตรวจดีเอ็นเอในช่วงเวลาเดียวกัน
แต่สิ่งที่เห็นก็ทำให้ซิเนิร์ตประหลาดใจ เพราะข้อมูลในเว็บไซต์ของบริษัทที่ตรวจดีเอ็นเอ บอกว่าเธอมีญาติใกล้ชิดทางสายเลือด ด้วยความสงสัยเธอจึงกดเข้าไปดู ก่อนจะพบว่าเป็นเด็กคนหนึ่ง ซึ่งทางระบบแจ้งว่า เธอมีดีเอ็นเอเหมือนเด็กคนนี้ถึง 49.96% ทำให้คาดว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของเธอ ซึ่งนั่นเป็นไปไม่ได้เพราะซิเนิร์ตมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้คลอดเด็กคนนี้ออกมาแน่ ๆ
ไม่ช้าเธอก็ได้รู้ว่าแท้จริงแล้วว่า เด็กคนนี้ก็คือลูกสาวของฝาแฝดเธอนั่นเอง การได้รู้ว่ามีฝาแฝดก็ทำให้ช่องว่างในใจได้รับการเติมเต็ม หลังจากนั้นซิเนิร์ตและบุชเนลก็เริ่มพูดคุยกัน ทำความรู้จักกันให้มากขึ้น แลกเปลี่ยนรูปถ่ายและเรื่องราวของกันและกัน
ทั้งนี้ หลังจากการพูดคุยผ่านโลกออนไลน์ ในที่สุดก็ถึงวันที่พวกเธอจะได้มาเจอหน้ากันเป็นครั้งแรก โดยวันแห่งความทรงจำนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2564 ซึ่งเป็นวันเกิดครอบรอบอายุ 36 ปีของทั้งคู่