นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีการเปิดเผยถึงการจัดหาและกระจายวัคซีนโควิด 19 ว่า วัคซีนหลักของไทยคือแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งกำหนดส่งเดือนมิถุนายนนี้ และตั้งสายการผลิตในประเทศไทย ซึ่งไม่ได้ช้า และเป็นไปตามไทม์ไลน์ทุกประการ ส่วนซิโนแวคนั้นนำมาให้บุคลากรทางการแพทย์
ส่วนวัคซีนเจ้าอื่น วันนี้ตนจะพบกับผู้ผลิตวัคซีนไฟเซอร์ จริง ๆ ก็พบกันมาหลายรอบ แต่ก่อนหน้านี้เขาบอกว่า จะส่งได้เร็วที่สุดปลายปี ตอนนั้นก็ไม่มีการระบาดเยอะขนาดนี้ และเราคิดว่า ตัววัคซีนหลักน่าจะเริ่มทยอยส่งออกมาตั้งแต่กลางปีเป็นต้นไป พอมาปลายปีก็ไม่มีประโยชน์ นอกจากเอามาสำรองเอาไว้ แต่ตอนนี้เวลาผ่านไป เราก็คุยกับเขาต่อ ไม่เคยหยุดคุย พยายามขอให้ร่นเวลาส่งให้เร็วที่สุด ทางเขาก็พยายามหาวิธีการจัดวัคซีนให้เร็วที่สุด วันนี้เขาจึงมาคุยกับเรา
นอกจากนี้ สรรพคุณไฟเซอร์ก็มีการเปลี่ยนแปลงคือ ไม่ต้องเก็บในอุณหภูมิ -70 องศาแล้ว ถ้าใช้ในเวลาที่กำหนด เช่น เก็บในระยะเวลาสั้น ๆ สามารถเก็บได้ -20 องศา ถ้าจะเอามาใช้ก็อยู่ในอัตรา 2-8 องศา แบบนี้ก็เป็นผลดีคือ อย่างน้อยเราไม่ต้องเปลี่ยนระบบขนส่ง การเก็บควบคุมแล้ว ทุกอย่างจึงคุยกันได้ และที่สำคัญคือ ไฟเซอร์เงื่อนไขไม่มาก ใช้ได้ตั้งแต่เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ทำให้ครอบคลุมกลุ่มอายุคนมากขึ้น
ตอนนี้เหลืออยู่อย่างเดียว ส่งได้เมื่อไร ราคาไม่ใช่สิ่งที่กังวล เพราะความปลอดภัยของประชาชนมีมากกว่า จะให้กราบเขาเพื่อให้ส่งให้เร็วที่สุดก็จะทำ
ขอบคุณ MCOT HD