หนุ่มพิษณุโลกเข้าเวรบริษัทคนเดียว พบอีกทีร่างนอนแน่นิ่งอยู่หน้าตึก
หนุ่มพิษณุโลกเข้าเวรบริษัทคนเดียว พบอีกทีร่างนอนแน่นิ่งอยู่หน้าตึกคาดพลัดตกลงมาจากชั้น 21 ที่ทำงานอยู่ ยังไม่ฟันว่าเป็นอุบัติเหตุหรือเพราะเหตุใด แม่บ้านเห็นเหตุการณ์ต่อหน้าต่อตา
ผู้สื่อข่าวรายงานวันที่ 23 เม.ย.64 เวลา 15.00 น. พันตำรวจโท ชาติชาย เขจรชัย สว.(สอบสวน) สน.ทุ่งมหาเมฆ ได้รับแจ้งมีเหตุผู้ตกจากที่สูงลงมาเสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ หน้าอาคารสาทร จึงประสานแพทย์นิติเวช รพ.จุฬา เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู สนับสนุนที่เกิดเหตุทันที เป็นชาวจังหวัดพิษณุโลก
เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางถึงที่เกิดเหตุเป็นบริเวณหน้าอาคารสาทร ถนนสาทร แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร พบเป็นชาย 1 ราย นอนคว่ำหน้ากับพื้น สวมใส่เสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีเทา กางเกงยีนส์ขายาว มีบาดแผลบริเวณใบหน้าเลือดไหลออกจำนวนมาก ร่างกายแหลกเหลวหลายแห่ง ทราบชื่อต่อมาชื่อนาย สุธี โพธิ อายุ 31 ปี เป็นคนพรหมพิราม จ.พิษณุโลก ทำงานเป็นพนักงานบริษัทที่ชั้น 21 ของอาคารแห่งนี้ อยู่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ แต่วันนี้ไม่มีพนักงานคนอื่นมา นอกจากผู้เสียชีวิตคนเดียวที่มาเข้าเวรเฝ้าบริษัท
สอบถามจากมอเตอร์ไซค์วินที่อยู่หน้าอาคารเห็นเหตุการณ์ ชื่อนาย สี เปี้ยใส อายุ 40 ปี บอกเล่าว่า ตนได้ยินเสียงดังสนั่นพื้นสะเทือนเลย ตนเลยวิ่งออกมาดู ก็เห็นเค้านอนแน่นิ่งไปกับพื้นแล้ว ที่เห็นเป็นผู้ชายก็รู้สึกตกใจ แต่ตนก็เคยเจอเหตุการณ์ซึ่งๆหน้าแบบนี้มาแล้ว แต่เป็นเคสรถชน
ส่วนทางแม่บ้านหน้าอาคารที่กวาดพื้นอยู่ (ไม่ประสงค์ออกนาม) บอกเล่าว่า ตนกวาดพื้นอยู่ เห็นเงาบนพื้น ลอยร่วงลงมา แต่ตนก็นึกว่าเป็นเงาของธงที่ปลิวขาดลอยมา และได้ยินเสียงดังเปรี้ยงก็นึกว่าเป็นเสียงของพื้นถนนเพราะว่า มีแผ่นเหล็กที่พื้นถนนอยู่จะได้ยินประจำเวลารถแล่นทับผ่านมา แต่พอได้ยินเสียง วินมอไซค์ร้องแบบตกใจ ก็ไปมองดูเห็นคนนอนที่พื้น ตอนแรกนึกว่ายังมีชีวิตอยู่เห็นหัวเค้าผงกขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ เค้าเสียชีวิตแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและแพทย์นิติเวช ตรวจสอบชันสูตรพลิกศพเก็บบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องตรวจสอบตากกล้องวงจรปิดเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตว่าพลัดตกลงหรือกระโดดลงมาเอง ถึงจะสรุปสาเหตุการเสียชีวิตได้ ก่อนจะให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตส่งสถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช ก่อนจะให้ญาติมาติดต่อขอรับร่างกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป